ชีวิตรันทดของ กอล์ฟ ฟักกลิ้งฮีโร่ ก่อนจะเป็นแร็พเปอร์ชื่อดัง

กอล์ฟ ฟักกลิ้งฮีโร่


กอล์ฟ ฟักกลิ้งฮีโร่


กอล์ฟ ฟักกลิ้งฮีโร่


กอล์ฟ ฟักกลิ้งฮีโร่

เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก youtube.com โพสต์โดย MrOho1988 , facebook ฟักกลิ้ง ฮีโร่

        แร็พเปอร์อารมณ์ดี "กอล์ฟฟักกลิ้งฮีโร่" กลายเป็นที่รู้จักของคนทั่วไปหลังจากเพลง "ราตรีสวัสดิ์" เพลงแร็พมันส์ๆ ที่สื่อความหมายถึงการยกย่องตำรวจ และทหารกล้าในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ที่เสียสละปกป้องด้ามขวานที่ลุกเป็นไฟเพื่อคนไทยซึ่งเจ้าตัวเป็นคนร้องโด่งดังขึ้นมาในชั่วข้ามคืน

        และนั่นอาจเป็นครั้งแรกที่ทำให้หลาย ๆ คนรู้จักหนุ่มร่างตุ้ยนุ้ยอารมณ์ดีคนนี้ แต่จริง ๆ แล้ว "กอล์ฟฟักกลิ้งฮีโร่" เขาเป็นใครมาจากไหน และก้าวเข้าสู่วงการแร็พเปอร์ได้อย่างไรไปติดตามเรื่องราวชีวิตของหนุ่มกอล์ฟที่น้อยคนนักจะรู้แต่ถ้าดูแล้วรับรองต้องอึ้ง! ในรายการสะบัดช่อกันเลย

กอล์ฟ ฟักกลิ้งฮีโร่

        เริ่มแรกหนุ่มกอล์ฟ ฟักกลิ้งฮีโร่ เล่าว่าเขาเป็นลูกชายคนเดียวของครอบครัวที่มีพื้นเพอยู่ในจังหวัดเชียงราย และมีฐานะยากจนแต่พ่อแม่ก็ทำงานส่งเสียให้เขาได้เข้าเรียนในโรงเรียนเอกชนดี ๆซึ่งมีแต่ลูกคนรวยเรียนทั้งนั้น และนับว่าโชคดีมากที่เพื่อน ๆในกลุ่มก็ช่วยเหลือแบ่งปันให้เขาเสมอ โดยไม่คำนึงถึงฐานะและจากการที่ได้อยู่กลุ่มเพื่อน ๆ นี่เอง ก็ทำให้เขาได้รู้จักเพลงฮิปฮอป และเริ่มสนใจเพลงสไตล์นี้หลังจากได้ฟังเพลง"Jump" ของศิลปินดูโอ Kris Kross และเล่นดนตรีเรื่อยมาโดยมี "โจอี้ บอย" เจ้าพ่อแร็พเปอร์เป็นไอดอล

        กอล์ฟ บอกว่า สมัยนั้นเขายังเด็กมากอายุ 17-18เป็นคนที่มีอีโก้สูงเห็นเพลงอะไรที่ไม่เหมือนตัวเองก็จะรู้สึกว่าเป็นการทำลายดนตรีซึ่งก็มีอยู่ครั้งหนึ่งที่เขายังเด็ก ๆ ไปเปิดทีวีเห็น โดม ปกรณ์ ลัม ร้องเพลงอยู่แล้วรู้สึกว่ามันไม่ใช่ จนถึงขนาดถีบทีวีพังเลยทีเดียว ซึ่งแน่นอนว่าหนุ่มกอล์ฟถูกแม่ตียับเช่นกัน (ฮา)

        ชีวิตของ กอล์ฟเดินมาจุดถึงเปลี่ยนหลังจากเขาไม่สามารถสอบเอ็นทรานซ์เข้าคณะนิติศาสตร์ได้ดังใจหวังแต่แล้วครูสอนคณิตศาสตร์คนหนึ่งได้แนะนำให้กอล์ฟเข้ามาเรียนในกรุงเทพฯ โดยบอกว่า"กรุงเทพฯ จะสอนความเป็นผู้นำครอบครัวให้เธอ" ทำให้หนุ่มกอล์ฟ ที่รู้สึกเกลียดกรุงเทพฯ เป็นทุนเดิม และคิดเสมอว่ากรุงเทพฯ คือเมืองที่มีแต่การแก่งแย่งชิงดี อากาศเสีย รถติด ตึกสูง ๆตัดสินใจเข้ามาเสาะแสวงหาชีวิตใหม่ในดินแดนแห่งนี้

กอล์ฟ ฟักกลิ้งฮีโร่

        ครั้งแรกที่ กอล์ฟ ย่างก้าวมาถึงกรุงเทพฯเขาตัดสินใจมาสมัครเรียนที่คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยรามคำแหงและเห็นผู้คนมากมายแย่งสมัครเรียนที่มหาวิทยาลัยรามคำแหง รวมทั้งพบกับบรรยากาศที่มีแต่ตึกสูงๆ รถติดสาหัส ในใจตอนนั้นหนุ่มกอล์ฟคิดเพียงแต่ว่า "จะสามารถใช้ชีวิตอยู่ที่นี่ได้หรือ"แต่สุดท้ายก็ต้องอยู่ให้ได้

        และมีอยู่วันหนึ่ง หนุ่มกอล์ฟ รู้ว่า โจอี้ บอยไอดอลของเขา จะมาออกรายการเกมฮอตเพลงฮิต ซึ่งเป็นรายการสด เขาจึงตัดสินใจไปดักเจอโจอี้ บอย ที่ห้องส่งด้วยการขึ้นรถเมล์ครั้งแรกเพื่อไปส่งเดโมเพลงที่เคยแต่งและอัดเสียงไว้ให้กับโจอี้ บอย

        หลังจากส่งเดโมให้โจอี้ บอย ไปไม่นานหนุ่มกอล์ฟก็ได้รับการติดต่อจาก โจอี้ บอย ให้ขึ้นไปประกวดร้องเพลงแร็พซึ่งก็ทำให้เขาเริ่มเป็นที่รู้จักในหมู่ชาวแร็พเปอร์ และตั้งแต่นั้นมาหนุ่มกอล์ฟก็เริ่มรู้ตัวเองว่า คงไม่สามารถเรียนนิติศาสตร์ได้อีกแล้วเพราะไม่ใช่หนทางของตัวเอง เขาจึงตัดสินใจเลิกเรียนในที่สุดและหันไปเอาดีกับการเป็นแร็พเปอร์ และเมื่อโจอี้ บอย จะเปิดค่ายเพลงจึงได้ชักชวนหนุ่มกอล์ฟมาเป็นศิลปินในค่ายด้วย ทำเอาหนุ่มกอล์ฟหัวใจพองโตสุด ๆแถมโจอี้ บอยยังชักชวนให้หนุ่มกอล์ฟมาพักอยู่ในอพาร์ทเม้นต์สุดหรูด้วยกันอีกต่างหาก

        แต่นี่ก็เป็นอีกจุดเปลี่ยนของชีวิตที่ทำให้หนุ่มกอล์ฟต้องกุมขมับกับชีวิตแสนลำบากที่กำลังรออยู่ตรงหน้าเพราะหนุ่มกอล์ฟไม่มีเงินจ่ายค่าห้องที่ต้องออกร่วมกับโจอี้ บอย คนละห้าพันบาทที่สำคัญคือยังไม่มีค่ากินอีกต่างหาก สุดท้ายหนุ่มกอล์ฟก็ต้องแอบฉกเงินห้าพันบาทซึ่งเป็นส่วนค่าห้องที่โจอี้ บอยต้องจ่ายทุกเดือนไปใช้เป็นค่าอยู่ค่ากิน ทำให้เขาไม่ได้ชำระค่าห้องนั้นนานนับปีซึ่งเขาก็แปลกใจมากที่เจ้าของหอไม่ทวงเลยสักครั้ง

        เพราะความที่ไม่มีเงินทำให้หนุ่มกอล์ฟต้องทานข้าวเปล่า ๆ กับซอสปรุงรส ดื่มน้ำประปาแช่ตู้เย็นหากวันไหนเงินหมดไม่มีข้าวกิน ก็ต้องดื่มแต่น้ำประทังชีวิตแทน และมีครั้งหนึ่งเพื่อนชาวต่างชาติของโจอี้ บอย ซึ่งอยู่ห้องข้าง ๆ ต้องกลับไปอยู่ที่ต่างประเทศจึงได้ฝากหนุ่มกอล์ฟเข้าไปให้อาหารแมวในห้องให้ในช่วงที่เขาไม่อยู่ ด้วยความหิวมากหนุ่มกอล์ฟจึงต้องแอบเข้าไปขโมยอาหารแมวมากินหรือแม้กระทั่งต้องแอบทานข้าวเหลือจากจานข้าวที่วางอยู่หน้าห้องอื่น ๆที่รอคนมาเก็บจานก็ยังเคยทำ

กอล์ฟ ฟักกลิ้งฮีโร่

        แน่นอนว่า "ความลับไม่มีในโลก"เพราะเรื่องแดงขึ้นมาเมื่อเจ้าของห้องมาทวงค่าเช่าห้องที่โจอี้ บอยหนุ่มกอล์ฟจึงได้ยอมรับว่าตัวเองไม่มีเงินติดตัวเลยสักบาทแต่ที่ทำให้หนุ่มกอล์ฟซาบซึ้งใจก็คือ โจอี้ บอย ไม่ด่าสักคำแต่ยังรับงานแสดงมาจ่ายค่าห้องให้ทั้งหมด       

        แต่ถึงกระนั้นหนุ่มกอล์ฟไม่สามารถอยู่ที่ห้องของโจอี้ บอย ได้อีกแล้วและตัวเองก็ไม่เหลืออะไรแล้ว จึงต้องตระเวนไปนอนบ้านเพื่อนบ้างไปนอนตามป้ายรถเมล์บ้าง โดยถือกระเป๋าใบหนึ่งซึ่งใส่เสื้อผ้าหนึ่งชุดและพวกอุปกรณ์อาบน้ำติดตัวไปเท่านั้นเรียกได้ว่าเป็นช่วงที่ตกต่ำที่สุดของชีวิตแร็พเปอร์ชื่อดังคนนี้       

        กระทั่งอัลบั้ม "สิงห์เหนือเสือใต้" ออกมา หนุ่มกอล์ฟจึงได้เงินก้อนแรกซึ่งสิ่งแรกที่เขาทำเลยก็คือวิ่งไปหาห้องเช่าอยู่ จนทุกวันนี้เขาก็ยังพักอยู่ที่ห้องเล็ก ๆ แห่งนี้ เพราะรู้แล้วว่าในชีวิตนั้นต้องการแค่ที่ซุกหัวนอน ที่อาบน้ำเท่านั้น

กอล์ฟ ฟักกลิ้งฮีโร่

        แต่ทว่าแม้จะเป็นศิลปินแล้ว หนุ่มกอล์ฟก็ยังได้ชื่อว่าเป็นกบฏของวงการแร็พเปอร์อย่างเช่นช่วงแรก ๆ ของการขึ้นคอนเสิร์ตเขามักจะใส่รองเท้าแตะขึ้นเวทีโดยไม่แคร์สายตาใคร เพราะคิดว่านี่คือตัวของตัวเองกระทั่งได้โจอี้ บอย มาเตือนสติ ว่า กว่าที่จะมีเวทีใหญ่ให้ขึ้นมาโชว์ได้เช่นนี้มีทั้งคนตอกตะปู คนทำไฟ โปรดิวเซอร์ ดังนั้นจงเคารพคนอื่นด้วย ซึ่งคำเตือนนี้เองก็ทำให้หนุ่มกอล์ฟคิดได้ว่าสิ่งที่เขาทำเหมือนเป็นการไม่เคารพน้ำพักน้ำแรงของคนอื่นหลังจากนั้นเขาก็เข้าใจทุกอย่างเป็นอย่างดี

        กอล์ฟ บอกว่า ทุกวันนี้ กอล์ฟได้เป็นผู้นำครอบครัวสมใจปรารถนา เพราะสามารถส่งเงินเลี้ยงพ่อแม่ได้ตามที่ครูเคยแนะนำไว้ว่า "หากอยากจะเป็นผู้นำครอบครัวต้องมาอยู่กรุงเทพฯ"

        "กรุงเทพฯ สอนอะไรผมหลายอย่างมากจากที่เกลียด แต่ตอนนี้กรุงเทพฯ คือครูของผม กรุงเทพฯ ทำให้มีอย่างวันนี้ทำให้พ่อแม่ผมสบาย ขอบคุณกรุงเทพฯ" หนุ่มกอล์ฟ ทิ้งท้าย

        และนี่ก็คือประสบการณ์ชีวิตอันแสนรัดทนของหนุ่มฮิปฮอปอันดับต้นๆ ของเมืองไทย ที่ใครได้รู้ได้ฟังแล้ว ต้องบอกว่าแทบไม่น่าเชื่อเลยทีเดียว

กอล์ฟ ฟักกลิ้งฮีโร่


กอล์ฟ ฟักกลิ้งฮีโร่


กอล์ฟ ฟักกลิ้งฮีโร่


กอล์ฟ ฟักกลิ้งฮีโร่


กอล์ฟ ฟักกลิ้งฮีโร่

กอล์ฟ ฟักกลิ้งฮีโร่