Mumford & Sons วงร็อกชื่อดังเจ้าของรางวัลแกรมมี่จากประเทศอังกฤษ ลัดฟ้ามาระเบิดความมันครั้งแรกในประเทศไทย เปิดฉากคอนเสิร์ตด้วยเพลง SANAKE EYES กับเสียงเครื่องดนตรีที่ผสมผสานบลูกราส โฟล์ก คันทรี และร็อก หลังจบเพลงนี้ มาร์คัส มัมฟอร์ด ได้พูดว่า "ขอบคุณครับ" ท่ามกลางเสียงปรบมือของแฟนเพลง ถือว่าเป็นการเปิดตัวครั้งแรกในไทย ตามด้วยการแสดงเพลง GUDING LIGHT, THE CAVE และ BELOVED ไล่ตามลำดับ
ฟังเพลงแล้วทำให้นึกถึงอดีตของวง Mumford & Sons วงร็อกสัญชาติอังกฤษ ที่รวมตัวกันในปี 2007 ประกอบไปด้วยสมาชิกวง คือ มาร์คัส มัมฟอร์ด (Marcus Mumford), เบน โลเว็ตต์ (Ben Lovett), วินสตัน มาร์แชล (Winston Marshall) และ เท็ด ดเวนย์ (Ted Dwane) การก่อตั้งวงขึ้นมาเป็นความบังเอิญที่ลงตัว เพราะพวกเขาต่างรักและสนใจในการทำเพลงและการแสดงดนตรีในทุกโอกาส ทำให้พวกเขาสามารถทำงานร่วมกันได้เป็นอย่างดี บนเส้นทางสายดนตรีที่ผ่านมา Mumford & Sons ได้ปล่อยสตูดิโออัลบั้มออกมาทั้งสิ้น 4 ชุด ได้แก่ ไซห์ โน มอร์ (Sigh No More) ในปี 2009, บาเบล (Babel) ในปี 2012, ไวล์เดอร์ มายด์ (Wilder Mind) ในปี 2015 และ เดลต้า (Delta) ในปี 2018 เพลงเดบิวต์ของพวกเขา ไซห์ โน มอร์ (Sigh No More) ทะยานติดอันดับ 2 บนชาร์ตอัลบั้มอังกฤษ (UK Album Chart) และชาร์ตบิลบอร์ด 200 (Billboard 200) ในประเทศสหรัฐอเมริกา และทำให้ในปี 2011 พวกเขาได้รับรางวัลอัลบั้มของศิลปินชาวอังกฤษยอดเยี่ยม (Best British Album) บนเวทีที่ยิ่งใหญ่อย่าง บริท อวอร์ด (Brit Award) อีกทั้งยังได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลแกรมมี่ (Grammy Award) มากกว่า 6 ครั้ง
บาเบล (Babel) เพลงเปิดตัวของอัลบั้มชุดที่ 2 ลอยลำขึ้นอันดับ 1 บนชาร์ตอัลบั้มอังกฤษ (UK Album Chart) ตั้งแต่ปล่อยออกมาให้แฟนเพลงได้ฟังกัน เพลงเดียวกันนี้ทำให้ Mumford & Sons ได้รับการเสนอชื่อเป็นครั้งที่ 8 บนเวทีแกรมมี่ (Grammy Award) และในที่สุดก็คว้ารางวัลใหญ่อย่างอัลบั้มแห่งปี (Album of the Year) อัลบั้มบาเบลกลายเป็นอัลบั้มร็อกที่ขายได้เร็วที่สุดในรอบ 10 ปี ทำให้วงได้รับเชิญขึ้นแสดงที่งานเทศกาลดนตรีแกลสตันบูรี (Glastonbury Festival) ในปี 2013 และในปีเดียวกันนี้ พวกเขาได้รับรางวัลอัลบั้มของศิลปินชาวอังกฤษยอดเยี่ยม จากเวทีบริท อวอร์ด อีกครั้ง
การแสดงช่วงแรกมาสิ้นสุดในเพลง Delta ซึ่งได้รับความเห็นพ้องต้องกันจากนักวิจารณ์เพลงว่า นี่คือ อัลบั้มที่ดีที่สุดของวงตั้งแต่เริ่มทำงานเพลงมา นำโดยโปรดิวเซอร์ พอล เอ็พเวิร์ธ (Paul Epworth) อัลบั้มนี้เป็นการอัดเพลงที่สนุกสนานและแปลกใหม่ที่สุดของวง อีกทั้งเพื่อเป็นการโปรโมตอัลบั้ม พวกเขาทุกคนในวงกล่าวขอบคุณและอำลาแฟนเพลง ท่ามกลางแสงไฟที่ปิดลง ด้านแฟนเพลงไม่ยอมกลับ ได้ปรบมือและส่งเสียงเรียกร้องให้สมาชิกวง Mumford & Sons กลับมาแสดงอีกครั้ง ซึ่งไม่ผิดหวัง แสงไฟได้สว่างขึ้นพร้อมการกลับมาของสมาชิกในวงที่มายืนกลางเวที และแสงไฟได้ฉายมาที่สมาชิกทุกคนในวง โดยมี มาร์คัส มัมฟอร์ด เป็นผู้เล่นกีตาร์โปร่ง และร้องนำในเพลง ONLY LOVE และจัดเต็มเครื่องดนตรีที่ผสมผสานบลูกราส โฟล์ก คันทรี และร็อก ในเพลง AWAKE และปิดท้ายการแสดงด้วยเพลง I WILL WAIT ส่งให้ Mumford & Sons Live in Bangkok 2019 คอนเสิร์ตที่เปิดตัวครั้งแรกในไทยถือว่าประทับใจแฟนเพลงทุกคน เพราะไม่ว่าเพลงไหนดังขึ้นมา แฟนเพลงที่อยู่ในฮอลล์ต่างก็ร้องตามกันได้หมด
