คอนเสิร์ต รอยเท้าพระจันทร์ ถึง บันนังสตา
คอนเสิร์ตการเดินทางของคนหนุ่ม รอยเท้าพระจันทร์ ถึง บันนังสตา (ดินสอสี)
ร่วมสดับ รับฟัง เสียงเพลง ดนตรี เรื่องเล่า เคล้ากวี และ ศิลปะ ในคอนเสิร์ตที่ปรารถนาเป็นแรงบันดาลใจให้กับคนหนุ่มสาว ในการเดินทางแสวงหาความหมายของชีวิต…และ สันติภาพ
จัดแสดง
เสาร์ที่ 2 ตุลาคม 2553 เวลา 18.00 น. ณ หอประชุมเล็ก ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย เปิดหนังสือเป็นบทเพลง
สุวิชานนท์ รัตนภิมล / ชุมพล เอกสมญา wildseed ศิลปินรับเชิญ
มาโนช พุฒตาล ร่ายบทกวีจากหัวใจ
ซะการีย์ยา อมตยา เจ้าของผลงานรวมเล่มกวีซีไรท์คนล่าสุด ไม่มีหญิงสาวในบทกวี
ศิริวร แก้วกาญจน์ กวีหนุ่มหน้ารามฯ รางวัลศิลปาธร พ.ศ.2550
อังคาร จันทาทิพย์ กวีจากดินแดนที่ราบสูง รางวัลงานสัปดาห์หนังสือแห่งชาติ พ.ศ.2545
กานติ ณ ศรัทธา กวีทำสวนแห่งทุ่งสง นครศรีธรรมราช
ภู เชียงดาว กวีทำสวนแห่งเชียงดาว เชียงใหม่ บัตรราคา
500 และ 800 บาท (บัตร 800 บาท รับ CD เพลงชุดพิเศษจาก สุวิชานนท์ / พล ไวลด์ซี้ด)
สอบถามรายละเอียด และ จองบัตรได้ที่
กลุ่มดินสอสี โทร. 0-2623-2838-9 Website : http://www.dinsorsee.wordpress.com/
สุวิชานนท์ รัตนภิมล (นนท์)
หนุ่มใต้จากลุ่มทะเลสาบสงขลา ผู้ผกผันชีวิตมาหลงใหลทะเลภูเขาจนปักหลักใช้ชีวิตที่เชียงใหม่
นักเขียนรางวัลลูกโลกสีเขียว นามปากกา หญ้าน้ำ ทุ่งขุนหลวง และ คำ พอวา บรรณาธิการ นิตยสาร เสียงภูเขา ผู้เปิดโลกชนเผ่าบนดอย และ ดนตรีชีวิตคนปกากะญอ ให้คนทั่วไปได้ซึมซับประทับใจ
เจ้าของบทเพลง สานใจคนรักป่า ที่ได้รับการขับขานต่อเนื่องในหมู่นักกิจกรรมรั้วมหาวิทยาลัย ผลงานล่าสุด ชุด“นางฟ้าสีขาว กับ รอยเท้าพระจันทร์ ผสมผสานสำเนียงใต้ เข้ากับ กลุ่มเครื่องสาย ไวโอลิน เชลโล ดับเบิลเบส บรรจุอารมณ์คนคิดถึงบ้าน สวนยาง รอยจำ และ ถ้อยรำพึงถึงลูกสาวผู้จากไป โดยมี ชุมพล เอกสมญา เจ้าของเสียงร้องแหบพร่าด้วยอารมณ์ลุ่มลึก ร่วมร้องเพลง แม่น้ำ
ทั้งสองคน พบเจอกันบนถนนดนตรี และ เส้นทางการแสวงหา นานนับสิบปี สุวิชานนท์ตามเขียนชีวิตชุมพล จนเป็นหนังสือสารคดี การเดินทางอย่างลูกชายจ่าเพียร
"ชีวิตของชุมพล พิเศษตรงที่เขาข้องเกี่ยวกับเรื่องราวประวัติศาสตร์ของบ้านเมือง พ่อเขาเป็นนักรบ เขาเป็นลูกชายของคนซึ่งเป็นกลไกหนึ่งของบ้านเมืองในความขัดแย้ง จึงน่าสนใจว่าเขามีความคิดอย่างไรที่เลือกเดินอีกทาง"
"เจอชุมพลครั้งแรก เขาเป็นคนหนุ่มที่เหมือนกับฟืนแตกเปรี๊ยะ ๆ แต่กลับมีความละมุนอยู่ข้างใน ไม่ใช่เป็นความก้าวร้าว แต่ด้วยพลังของเขา อารมณ์ความรู้สึกภายในของเขา ร้อยเข้ากับของเราได้ เป็นภาวะที่เรารู้สึกเป็นเพื่อนร่วมกันได้ เมื่อเขาเอาเพลง หมาจร ที่ผมแต่งไว้ไปทำเพลง พี่มาโนช พุฒตาล ฟังแล้วชอบมาก ตอนผมทำเพลง แม่น้ำ ผมก็อยากให้เขามาตะโกนในเพลงของผม"
"คอนเสิร์ตนี้เป็นการบอกเล่าเรื่องราวการเดินทางของคนหนุ่ม เหมือนตัวแทนของคนหนุ่มในยุคสมัยที่ยังโบกรถไปไหนต่อไหนกัน ขณะที่ยุคนี้เขาคงไม่เดินทางกันแล้ว มีมือถือโทรศัพท์เมื่อไรก็ได้ อีเมล์อะไรถึงกันได้หมด แต่จริงๆ แล้ว วิญญาณข้างในนั้นเล่ากันไม่ได้ คุณต้องเดินทางเอง คุณต้องใช้เลือดเนื้อของคุณเอง ความใฝ่ฝันที่อยากทำงานดนตรี หนังสือศิลปะ สิ่งที่เราค้นเจอ วิถีชีวิตที่พบผ่าน การทำงาน การใช้ชีวิต ความทุกข์ความสุข ระหว่างความจริงกับความฝัน ผ่านบทกวี และ เสียงเพลงของเรา"
ชุมพล เอกสมญา (พล Wildseed)
ลูกชายจ่าเพียร พล.ต.อ.สมเพียร เอกสมญา ผู้สละชีวิตกลางไฟความขัดแย้งที่ไม่รู้จบ
ชุมพล ใช้ชีวิตนักเดินทางเพนจรจากยะลาสู่ภูดอยภาคเหนือ จากบ้านพ้อเลป่า แม่แฮใต้ ถึง กลุ่มวัชพืชหลังเขาแห่งป่าสนวัดจันทร์ จนจรดต้นน้ำแม่เงา
เขียนกวีเป็นชีวิต เล่นดนตรีเป็นจิตใจ ระหว่างทางสัญจร ยอกย้อนกับชะตาลิขิต นำพาให้ได้พบพาน ผสมดนตรีด้วยเสียงกีตาร์สดๆ จากหัวใจ กับ สุวิชานนท์ จากนั้น จึงหยิบเอาบทเพลง หมาจร ของรุ่นพี่คนนี้ ดุ่มเดินไปหามาโนช พุฒตาล จนได้ออกอัลบั้มชุดแรก WILDSEED กับบริษัทไมล์สโตน ก่อนจะมาถึง บันนังสตา บทเพลงไถ่ถามความหวังถึงสันติภาพของบ้านเกิด อันลือลั่นจากความตายของพ่อ
ผู้ถ่ายทอดบทกวี เธอคือดวงดาว ของ เสกสรรค์ ประเสริฐกุล เป็นบทเพลงประจำรายการ เปลี่ยนประเทศไทย ของสถานีโทรทัศน์ทีวีไทย รวมถึงเพลงบทใหม่ที่ใครฟังต้องน้ำตาซึม เบอดี้ หมาล่าเนื้อ และ ฝนตกใส่แสงจันทร์ ขับร้องบรรเลงร่วมกับดนตรีสากลออเคสตรา เครื่องเป่าพื้นบ้าน โดย วงทิพย์ กลุ่มนักดนตรีฝีมือเยี่ยม แห่งมหาวิทยาลัยพายัพ เชียงใหม่
"คนหนุ่มยุคผม แสวงหากันจริงๆ คนรุ่นนั้นจะแรงในทางที่ตัวเองเลือก คิดย้อนไปแล้วแบบว่า เอาความกล้ามาจากไหน เอามาจากวรรณกรรม เอามาจากประวัติบุคคลต่างๆ คนหลายคนเขาเลือกที่จะเสี่ยง ที่จะวัดชะตากรรมของตัวเอง การเดินทาง ทำให้เราได้งานที่มีน้ำหนักมาก ผมไม่เคยทิ้งบันทึก โบกรถ ตกรถ เออ แดดมันเศร้านะ ผมก็เขียน แดดสีเศร้า ถนนสายเหงา ได้มาสองคำก็คุ้มแล้ว เราโบกรถหนึ่งอาทิตย์ ได้วรรคดี ๆ สักสองบรรทัด ระหว่างทางเป็นการกลั่นงานที่สำคัญมาก"
"คอนเสิร์ตนี้จะเรียกว่าเหนือความคาดหมายก็ได้ ผมอยากให้เป็นบันทึกการเดินทางทางสังคม ผ่านบทเพลง เพลงที่เป็นกวีนิพนธ์ เพลงที่มีส่วนผสมของดนตรีที่หลากหลาย แล้วก็เล่าเรื่องราวของบ้านเมือง ของยุคสมัยของเราที่มันเป็น"
"ผมแต่งเพลงเบอดี้ เล่นกีตาร์หลับตาร้องไป ได้ยินเสียงเป็นพี่นนท์ยืนเป่าฮาร์โมนิกาอยู่ไกล ๆ ตอนบันทึกเสียงก็ต้องชวนพี่นนท์มาช่วยเป่าให้ เป็นอะไรที่เราเชื่อมร้อยงานศิลปะกันมาแบบนี้ ส่วนพี่มาโนช พุฒตาล ถือเป็นพ่อทางศิลปะคนหนึ่ง จะตามดูรายการเที่ยงวันอาทิตย์จนถึงรายการบันเทิงคดี ผมไปเรียนดนตรีเพราะอยากมีเพลงของตัวเอง เหมือนพี่มาโนชมีเพลงลำธาร คอนเสิร์ตนี้พี่มาโนชเต็มใจมาเล่นด้วย ไม่ได้เล่นกับพี่มาโนชมาสักสิบปีแล้วตั้งแต่อัลบั้มแรก"
มาโนช พุฒตาล (พี่ซัน)
พิธีกร นักจัดรายการวิทยุโทรทัศน์ ผู้มอบหัวใจให้กับเสียงเพลง ธรรมชาติ และ สิ่งแวดล้อม
ก่อกำเนิดบริษัทไมล์สโตน แหล่งผลิตงานชั้นดีไม่อิงกระแสมาหลากหลายวง เช่น มาลีฮวนน่า จนถึง WILDSEED เมล็ดพันธุ์เถื่อนของชุมพล เอกสมญา
เพลง ลำธาร ของพี่ซัน ได้รับการกล่าวขวัญถึงเมโลดี้อันงดงาม แฝงปรัชญาชีวิตลึกซึ้ง ปัจจุบันหวนคืนสู่บ้านเกิดกรุงเก่า ใช้ชีวิตในร่มเงาบ้านริมน้ำเจ้าพระยา สร้างสรรค์งานดนตรีในระดับมาสเตอร์พีซชุด อยู่อยุธยา พร้อมสองเพลงใหม่ล่าสุด อุทิศให้นักเขียนซีไรท์ กนกพงศ์ สงสมพันธุ์ และ ผู้ปกปักรักษาป่าไม้สัตว์ป่า ยิ่งกว่าชีวิต สืบ นาคะเสถียร
"งานเพลงของชุมพล จะเข้มข้นในเรื่องของสาระที่ถ่ายทอดออกไป เขามีวิธีการถ่ายทอดที่ไม่ค่อยเหมือนใคร ทั้งทำนอง ทั้งจังหวะ จะโคนของเพลง วิธีนำเสนอของเขา ยกตัวอย่าง เพลงตัวตลก เขาเข้าใจที่จะเลือกเอาตัวการ์ตูนอย่างโดราเอมอน ชินจัง มาเป็นสัญลักษณ์ในการถ่ายทอด ชุมพลฉลาดที่จะเอาเรื่องอะไรมาเสนอ และ เสนอออกมาได้สะเทือนใจ"
"ผมคิดว่าคนหนุ่มคนสาวแต่ละคนต่างมีขวัญใจของเขา มีเรื่องราวของเขา ที่กระตุ้นให้เขาได้สร้างสรรค์ผลงาน ในการดำเนินชีวิต บางคนอ่านนวนิยาย ก็อาจจะเป็นแรงบันดาลใจได้ อาจจะฟังเพลงแล้วเป็นแรงบันดาลใจ บางคนอาจจะมีพ่อแม่เป็นแรงบันดาลใจเขา ได้ทั้งนั้น"
ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก
dinsorsee.wordpress.com
