เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก เฟซบุ๊ก THE STAR ค้นฟ้าคว้าดาว
8 คนสุดท้าย the star 10 ประกาศผลแล้ว ตามไปสัมผัสชีวิตของ เดอะสตาร์10 ทั้ง 8 คนกันดู ว่ากว่าจะได้มายืนตรงจุดนี้ พวกเขาต้องเจอกับอะไรมาบ้าง
และแล้วเราก็ได้ทราบชื่อ 8 คนสุดท้าย the star 10 กันไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว หลังจากผ่านการคัดเลือกจากผู้สมัครกว่า 2 หมื่นคนทั่วประเทศ โดยปีนี้ก็เป็น เต้, ตั้ม, กั้ง, อาเมน, ซีดี, นัท, บิว และมุก ที่เดินตามความฝันสู่เวทีดวงดาวได้สำเร็จสมใจ
แต่ก่อนที่เราจะได้พบพวกเขาทั้ง 8 คนในคอนเสิร์ต ลองไปทำความรู้จักพวกเขาให้มากขึ้นกันหน่อยดีกว่า ว่า กว่าจะมาเป็น 8 คนสุดท้ายของเดอะสตาร์ ค้นฟ้าคว้าดาว ปี 10 ได้นั้น แต่ละคนต้องผ่านเรื่องราวชีวิตอะไรมาบ้าง จากรายการ The Star ที่ออกอากาศให้ชมกันเมื่อคืนวันอาทิตย์ที่ 23 กุมภาพันธ์ 2557
หมายเลข 1 "เต้" ธีระ จรรยาศิริกุล
เริ่มจาก หนุ่มเหนือเมืองน่านที่มาตามหาความฝันของตัวเอง "เต้" ธีระ จรรยาศิริกุล หนุ่มนักศึกษาวัย 23 ปี
เต้ บอกว่า ที่มาประกวดเพราะอยากช่วยครอบครัว และไม่อยากขอเงินคุณแม่ใช้อีก ส่วนที่ตัวเขาชอบร้องเพลงก็น่าจะมาจากคุณแม่ที่เคยเป็นนักร้องในร้านอาหารมาก่อน
คุณแม่ของเต้ ก็เลยเล่าว่า สมัยเด็ก ๆ เวลาแม่ไปขึ้นเวที เต้ก็จะขึ้นเวทีไปร้องด้วย ก็คงซึมซับในสายเลือด แต่พอเต้โตขึ้นเรียนอยู่สักชั้น ป.5-ป.6 คุณแม่ก็เลิกร้องเพลงแล้วหันไปขายเสื้อผ้าแทน แต่ขายไม่ค่อยดีเท่าไร ธุรกิจล้ม ก็เลยเอาเสื้อผ้ามาขายในบ้านแทน
"แล้วก็มีปัญหา บ้านอาจจะถูกธนาคารยึด ก็เลยบอกลูกว่า รถยนต์กับบ้านหลังนี้เหมือนจะไม่อยู่กับเราแล้ว ถ้าวันหนึ่งมันไม่ใช่ของเราต้องทำใจนะลูก เพราะแม่ก็ทำสุดความสามารถแล้วที่จะสร้างทุกอย่างให้ลูก"
เพราะแบบนี้ เต้ ถึงได้พยายามหางานทำ อย่างการไปร้องเพลงตอนกลางคืน เพื่อจะหาเงินมาช่วยตรงนี้ รวมถึงการเข้าประกวดเดอะสตาร์ ที่ถ้าได้งานทำ ก็อาจจะได้เงินมาผ่อนรถ ผ่อนบ้านช่วยพ่อแม่ได้บ้าง
หมายเลข 2 "ตั้ม" สุธน บู่สามสาย
หนุ่มมาดเข้มชาวกรุงฯ "ตั้ม" สุธน บู่สามสาย วัย 24 ปีคนนี้ เล่าถึงชีวิตของเขาให้ฟังว่า ตัวเองทำงานมาตั้งแต่เด็ก ๆ จนถึงวันนี้ก็ยังทำงานอยู่ งานหลักคือการเล่นดนตรีกลางคืนกับถ่ายงานโฆษณา ซึ่งแฟนเป็นคนชักชวนไป
ว่าแล้วก็ขอเปิดตัว ตุ่น แฟนของตั้ม ที่เล่าให้ฟังว่า คบกับตั้มมาสองปีแล้ว และกำลังมีน้อง น้องก็มาช่วงที่ตั้มประกวดเดอะสตาร์พอดี เลยถือเป็นของขวัญให้ตั้ม แต่ตอนแรกเธอก็คุยกับตั้มว่าไม่ต้องบอกใครก็ได้นะว่ากำลังจะมีน้อง เพราะกลัวตั้มจะได้รับผลกระทบจากการประกวดที่เกิดจากตัวเธอเองกับน้อง แต่ตั้มก็บอกว่า ตั้มก็เป็นตั้ม ไม่อยากโกหก
ฟาก ตั้ม ก็บอกว่า เขาคิดไว้ว่าอยากจะแต่งงานและให้ลูกมางานด้วย ตอนนี้อัลตราซาวด์แล้วเป็นลูกสาว แต่ยังลังเลอยู่ว่าจะให้ลูกสาวชื่ออะไรดี ระหว่าง สตาร์ กับ แสตมป์ พอติดเดอะสตาร์ก็อาจจะให้ลูกชื่อน้องสตาร์ก็ได้ และเขาก็ตั้งใจจะทำให้ดีที่สุด เพื่อจะได้ดูแลแฟนกับลูกสาวที่กำลังจะลืมตาดูโลก
หมายเลข 3 "กั้ง" วรกร ศิริสรณ์
แรงตั้งแต่เปิดตัวรอบคัดเลือกเลยทีเดียว สำหรับ "กั้ง" วรกร ศิริสรณ์ หนุ่มวัย 19 ปี ที่กำลังเรียนอยู่ปี 2 คณะอักษรศาสตร์ ภาคอินเตอร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ด้วยลีลาสเต็ปการเต้นกระชากใจสาว รายการเดอะสตาร์จึงพาไปเยี่ยมบ้านกั้งที่กรุงเทพฯ กัน
โดยคุณแม่ของกั้ง เล่าให้ฟังว่า คุณพ่อของกั้งเป็นนักการทูตไปประจำการอยู่ในหลายประเทศ ตั้งแต่กั้งเกิดมาก็ได้ไปอยู่ที่อินโดนีเซียก่อนเลย แล้วก็ไปประจำการที่โอซาก้า ประเทศญี่ปุ่น ลูกชายก็ตามไปด้วย
นั่นก็เลยเป็นจุดที่ทำให้กั้งได้เริ่มเรียนรู้ดนตรี ซึ่ง กั้ง บอกว่า เพราะที่ญี่ปุ่นจะสอนให้เด็ก ๆ เล่นดนตรีให้ได้ เขาก็เลยได้ซึมซับเรื่องนี้ จนเป็นจุดที่ทำให้เขาชอบร้องเพลงขึ้นมา พออายุสัก 11-12 ปี เขากลับมาจากญี่ปุ่น มีค่ายเพลงค่ายหนึ่งติดต่อมาพอดี เขาเลยตัดสินใจเข้าไปเป็นนักร้องในวงหนึ่ง เพื่อเรียนรู้และพัฒนาตัวเอง พอหมดสัญญา ก็เลยตัดสินใจออกมาตามความฝันดีกว่า
อีกหนึ่งแรงผลักดันให้ กั้ง เข้าสู่เวทีเดอะสตาร์นั้น ก็ไม่ใช่ใครที่ไหน แต่เป็นคุณพ่อนั่นเอง ที่ดูเดอะสตาร์ 3 แล้วรู้สึกชอบ พอดีกับที่กั้งชอบด้วย เพราะใฝ่ฝันจะได้เข้ามาในวงการ คุณพ่อจึงสนับสนุนเต็มที่
หมายเลข 4 "อาเมน" อาเมน โสตถิพันธุ์ คำลือชา
มาถึงหนุ่มสายเลือดนักดนตรี วัย 21 ปี อาเมน โสตถิพันธุ์ คำลือชา เขาบอกว่า ตั้งแต่จำความได้ก็เห็นคุณพ่อคุณแม่สอนร้องเพลง สอนดนตรีเด็กคนอื่น ๆ ในโรงเรียนสอนดนตรีของคุณตานพ โสตถิพันธุ์ ตัวเขาก็เลยเริ่มซึมซับและชอบการร้องเพลง การเล่นดนตรีตั้งแต่นั้นมา
เช่นเดียวกับคุณพ่อคุณแม่และคุณตาที่บอกว่า อาเมนเกิดมาพร้อมกับโรงเรียนสอนดนตรี แต่พวกเขาก็ไม่เคยบังคับให้ลูกเรียน ถ้าลูกสนใจก็จะมาบอกให้พ่อแม่ช่วยสอนให้เอง ซึ่งไป ๆ มา ๆ อาเมนก็หัดเล่นดนตรีจนเป็นทุกอย่าง แต่การร้องเพลงมาทีหลังสุด ตั้งแต่เด็กไม่เคยมีใครคิดว่า อาเมนจะร้องเพลงเลย เพราะเป็นคนไม่ค่อยพูดตั้งแต่เด็ก ไม่เคยมีแววมาก่อนเลย
อาเมน ก็ยอมรับว่า ตอนแรกตัวเองเป็นคนเงียบ ๆ ไม่กล้าพูดกับใคร แต่พอได้จับไมค์ก็รู้สึกเหมือนอยู่อีกโลกหนึ่ง กำแพงทุกอย่างหายหมด รู้สึกเป็นอิสระและมีความสุข จึงชอบการร้องเพลงมาก
หมายเลข 5 "ซีดี" กันต์ธีร์ ปิติธัญ
มาถึงคนที่ 5 หนุ่มอยุธยาวัย 17 ปี "ซีดี" กันต์ธีร์ ปิติธัญ นักเรียนชั้น ม.4 โรงเรียนสาธิต มศว ประสานมิตร ก็ขอมาตามล่าหาความฝันด้วยเช่นกัน
ซีดี เล่าให้ฟังว่า เขาอยู่ที่บ้านกับพ่อ ป้า อา อาก๋ง ซึ่งเป็นบ้านที่เปิดขายก๋วยเตี๋ยวมานานกว่า 80 ปีแล้ว ส่วนคุณแม่แยกทางกับคุณพ่อไปตั้งแต่เขาอายุได้ 2-3 ขวบ และไปมีครอบครัวใหม่ ซึ่งครอบครัวใหม่ของคุณแม่ก็ไม่รู้ว่าคุณแม่เคยมีลูกมาก่อน แม้จริง ๆ เป็นเรื่องที่เปิดเผยได้ แต่ตัวเขาเองไม่อยากให้เปิดเผย เพราะกลัวครอบครัวของแม่จะมีปัญหา
อย่างไรก็ตาม แม้ชีวิตของซีดีจะขาดคุณแม่ไป แต่หนุ่มคนนี้ก็บอกว่าตัวเขามีความสุขดี เพราะคุณป้าดูแลเขาเป็นอย่างดีเหมือนกับเป็นคุณแม่เลย และแต่ก่อนเขาเป็นเด็กติดเกมมาก คุณป้าทนไม่ไหวเลยส่งไปเรียนร้องเพลง เรียนเต้น จะได้ดูมีความกระตือรือร้นขึ้นหน่อย จนสุดท้ายเขาก็ชอบการร้องเพลงและการเต้นไปเลย
ฟากคุณพ่อก็บอกว่าที่บ้านชอบเรื่องการร้องเพลงอยู่แล้ว เลยสนับสนุนให้ซีดีมาประกวดเดอะสตาร์ พอรู้ว่าได้เข้า 8 คนสุดท้าย ก็สมหวังกันทั้งบ้าน ซึ่ง ซีดี ก็ยืนยันว่าจะทำให้เต็มที่ เพราะเป็นเวทีที่คนเป็นหมื่นเป็นแสนต่างอยากจะมาอยู่ตรงนี้
หมายเลข 6 "นัท" ณัฐวดี ดอกกะฐิน
สาวใต้ทรงพลังวัย 18 ปี "นัท" ณัฐวดี ดอกกะฐิน เปิดบ้านที่จังหวัดนครศรีธรรมราช มานั่งคุยให้ฟังว่า ตั้งแต่จำความได้เธอก็อยากเป็นนักร้องตั้งแต่เด็กแล้ว ถึงได้เดินสายประกวดร้องเพลงมาตลอด และก็คิดไม่ออกแล้วเหมือนกันว่าถ้าไม่ร้องเพลงจะทำอะไร
คุณแม่ของนัทเลยยืนยันอีกเสียงว่า นัทชอบร้องเพลงมาตั้งแต่เริ่มพูดได้แล้ว ขนาดตอนยังแบเบาะวางอยู่หน้าทีวี ยังพูดไม่ชัดเลย แต่กลับร้องเพลงได้ แล้วก็เริ่มประกวดร้องเพลงตั้งแต่เรียนอยู่ชั้นอนุบาล หลายเวทีตั้งแต่ระดับเล็ก ๆ ไปถึงระดับจังหวัด ระดับประเทศ พอติดเดอะสตาร์ก็ดีใจมาก เพราะลูกประกวดมาหลายเวที ร้องไห้บ้าง ดีใจบ้าง ครั้งนี้ก็อยากให้ประสบความสำเร็จ
หมายเลข 7 "บิว" ชนัญญา แสนเดช
ต่อกันที่สาวน้อยร่างเล็กแต่พลังเสียงเกินตัว อย่าง บิว ชนัญญา แสนเดช วัย 16 ปี ก็เล่าให้ฟังว่า เธอชอบร้องเพลงในห้องน้ำทุกวันมาตั้งแต่เด็ก ๆ แล้ว คงจะได้รับมาจากคุณพ่อคุณแม่ที่ชอบเล่นดนตรีด้วย เพราะคุณพ่อก็จะสอนเล่นกลอง เล่นกีตาร์มาตั้งแต่เด็ก ตอนนี้ก็อยู่วงดนตรีในโรงเรียน
คุณพ่อคุณแม่บอกด้วยว่า รักลูกสาวคนเดียวคนนี้มาก เพราะคุณแม่มีลูกยาก กว่าจะมีน้องบิวได้ต้องใช้เวลาเป็น 10 ปี แต่ถึงจะเป็นลูกผู้หญิง น้องบิวก็ไม่ได้เป็นสาวเรียบร้อยนัก ออกจะห้าว ๆ เหมือนผู้ชายมากกว่า อย่างเวลาเล่นกับเพื่อนผู้ชาย ผู้ชายยังกลัวเลยทีเดียว (หัวเราะ)
ส่วนคุณพ่อของบิวตอนนี้ไม่ได้ทำงานแล้ว เพราะมีอาการป่วยตั้งแต่สองปีก่อน ที่จู่ ๆ ก็ชักจากอาการเส้นเลือดในสมองตีบ จึงต้องทานยารักษาตัวอยู่เรื่อย ๆ แต่ล่าสุดอาการก็ดีขึ้นแล้ว พร้อมกับส่งกำลังใจให้ลูกสาวเดินตามความฝันให้ได้
หมายเลข 8 "มุก" ณัฐณิชา ชมดี
ด้วยน้ำเสียงอันเป็นเอกลักษณ์ ทำให้ มุก ณัฐณิชา ชมดี สาวน้อยวัย 16 ปี เป็นอีกหนึ่งคนที่ถูกจับตามองมาตั้งแต่รอบภาคเลย ซึ่ง น้องมุกก็เล่าว่า คุณแม่ชอบการร้องเพลงก็เลยส่งเธอไปเรียนร้องเพลงตั้งแต่เล็ก ๆ และพออายุ 8 ขวบ ก็เริ่มเข้าประกวดอย่างจริงจัง รวมทั้งเวทีเดอะสตาร์ในครั้งนี้ด้วย ที่คุณแม่บอกว่า เหมาะกับน้องมุกที่ไม่สวย แต่มีคุณภาพ (หัวเราะ)
น้องมุก บอกด้วยว่า การมาประกวดเดอะสตาร์ส่วนหนึ่งก็มาจากคุณแม่ด้วย ที่อยากให้เธอมาทำตามฝันของตัวเอง เธอเลยบอกกับคุณแม่ว่าขอให้เวทีเดอะสตาร์เป็นเวทีสุดท้ายก็แล้วกัน ถ้าไม่ติด ก็จะหยุดประกวดแล้ว
ส่วนคุณพ่อนั้น แยกทางกับคุณแม่มาได้ 3 ปีแล้ว ตอนนี้น้องมุกเลยอยู่กับคุณแม่ที่บ้านในปทุมธานี ซึ่งก่อนที่ทั้งสองคนจะแยกทางกันนั้นก็ได้ถามลูกสาวว่าโอเคไหม น้องมุกก็รับปากว่าจะทำตัวเป็นปกติเหมือนเดิม ไม่ทำตัวเป็นเด็กมีปัญหา ถ้าคุณพ่อคุณแม่แยกกันอยู่แล้วจะไม่ทะเลาะกันอีก
แน่นอนว่า น้องมุกก็ยังเป็นเด็กดี ไม่ดื้อ และเชื่อฟังคุณแม่ รวมทั้งการมาประกวดเดอะสตาร์ด้วย ที่คุณแม่ถึงกับพูดเลยว่า ชีวิตนี้อย่างไรก็ขอให้ได้เห็นลูกสาวมาประกวดเดอะสตาร์ก่อน ถึงจะเป็นอะไรก็ไม่เป็นไร แต่ขอให้ถึงเวลาที่ลูกสาวได้มาเวทีนี้ก่อนก็ดีใจแล้ว
ได้รู้จักตัวตนและชีวิตส่วนตัวของ 8 คนสุดท้าย The Star 10 กันไปแล้ว รักใครเชียร์ใครก็ตามให้กำลังใจพวกเขาทั้ง 8 คน เพื่อให้ได้ไปต่อด้วยนะจ๊ะ แล้วอย่าลืมติดตามชมคอนเสิร์ตเปิดตัวทั้ง 8 คน ได้ในวันเสาร์ที่ 1 มีนาคม 2557 เวลา 21.30 น. ทางโมเดิร์นไนน์ ทีวี
