

ซึ่งถือเป็นงานเทศกาลดนตรีกลางแจ้งแนวเฮ้าส์และเทคโนที่ใหญ่ที่สุดในกรุงเทพฯ โดยได้รับการสนับสนุนจากพันธมิตรทางธุรกิจมากมาย ได้แก่ Rip Curl, Pullman Hotel G และ Red Bull ซึ่งงานในปีนี้จะจัดขึ้นในวันเสาร์และอาทิตย์ที่ 24-25 กุมภาพันธ์ 2561 ณ บึงไทยเวคพาร์ค ลำลูกกาคลอง 6 จังหวัดปทุมธานี บัตรเข้างานสองวันราคา 2,100 บาท และ บัตรเข้างานวันเดียว อยู่ที่ราคา 1,800 บาท ซื้อได้ที่ www.kolourinthepark.com
โดยในปีนี้ Kolour In The Park รับประกันความมันตลอดงาน และพร้อมมอบประสบการณ์สุดประทับใจกว่าที่เคย โดยจะผสมผสานองค์ประกอบต่าง ๆ ตั้งแต่ ดนตรี ศิลปะ กีฬา กิจกรรมอินเตอร์แอคทีฟช่วงเช้าถึงเย็น ไปจนถึงบรรยากาศปาร์ตี้ยามค่ำคืนที่เหนือระดับ ซึ่งงานในปีนี้ได้เพิ่มสีสันและความหลากหลายขึ้นกว่าเดิมจากปีที่แล้ว ไม่ว่าจะเป็นศิลปินทั้งหมดที่จะเข้าร่วมงานและรูปแบบการจัดงานที่แปลกใหม่กว่าที่เคย




เพียงแค่รายชื่อศิลปินกลุ่มแรกที่เผยออกมาก็สะท้อนให้เห็นถึงความหลากหลายของแนวเพลง ที่ผู้เข้าร่วมงานจะได้สัมผัส ซึ่งยังรวมไปถึงการแสดงสดต่าง ๆ อีกมากมายโดยยังคงเอกลักษณ์และความโดดเด่นของแนวเพลงเฮ้าส์และเทคโนเอาไว้อยู่
ไม่ว่าจะเป็น Mat.Joe คู่ดูโอสัญชาติเยอรมัน Matze และ Johannes ที่มาพร้อมเพลงเฮ้าส์ซึ่งจับคู่เข้ากับจังหวะเพลงสไตล์โซล และกลิ่นอายของดนตรีฮิพฮอพเข้าไว้ด้วยกัน Nakadia ไอคอนเพลงเทคโน ชาวไทยซึ่งตั้งถิ่นฐานอยู่ในเบอร์ลิน Pomo นักดนตรีและโปรดิวเซอร์ชาวแคนาดา ผู้สร้างสรรค์ดนตรีจังหวะอิเล็กทรอนิกส์ซึ่งได้รับอิทธิพลจากแนวเพลงเฮ้าส์ เพลงฟังก์ยุค 70 และ ยุค 80 และ Youngr อัลบั้มเดี่ยวสำหรับ Dario Darnell นักแต่งเพลง โปรดิวเซอร์ นักดนตรีและนักร้องนำผู้สรรหาและสร้างสรรค์ดนตรีที่ทำให้เพลงแนวเฮ้าส์แตกต่างไปจากเดิมเล็กน้อย



คัลเลอร์ อิน เดอะ พาร์ค
เป็นอีเว้นท์หนึ่งในซีรีส์อันหลากหลาย
ภายใต้แนวคิดของคัลเลอร์ที่มีเป้าหมายและความมุ่งมั่นเพียงอย่างเดียว
นั่นก็คือ
การนำเสนอซาวด์ดนตรีสดใหม่และประสบการณ์ในปาร์ตี้ที่ไม่เหมือนใครสู่ผู้เสพดนตรีในประเทศไทย
ไปพร้อม ๆ กับการขยายฐานผู้ฟังเพลงในแนวเฮ้าส์และเทคโน
พร้อมด้วยทีมงานที่ประกอบไปด้วยหลากเชื้อชาติ หลายวัฒนธรรม
ทั้งชาวไทยและเทศที่พำนักในไทย
มาร่วมงานกันเพื่อแลกเปลี่ยนประสบการณ์และภูมิหลังทั้งในเรื่องงานดนตรี งานบันเทิงและงานรื่นเริงในยามค่ำคืน ทั้งนี้ก็เพื่อตอกย้ำจุดยืนในฐานะผู้จัดงานที่ใหญ่ที่สุดเพียงรายเดียวที่เน้นเฉพาะดนตรีในแนวเฮ้าส์ เทคโน และอิเล็กทรอนิกา นอกจากนี้ เพื่อเป็นการต่อยอดจากงาน คัลเลอร์ อิน เดอะ พาร์ค ทางทีมงานคัลเลอร์กำลังวางแผนพัฒนาปาร์ตี้ฉีกแนวสุด เอ็กซ์คลูซีฟภายใต้แนวคิดแบบ อันเดอร์กราวด์ อาทิ คัลเลอร์ แวร์เฮ้าส์ (Kolour Warehouse), คัลเลอร์ ไลฟ์ (Kolour Live), คัลเลอร์ บีชไซด์ (Kolour Beachside) และคัลเลอร์ ซันเดย์ (Kolour Sundays)
มาร่วมงานกันเพื่อแลกเปลี่ยนประสบการณ์และภูมิหลังทั้งในเรื่องงานดนตรี งานบันเทิงและงานรื่นเริงในยามค่ำคืน ทั้งนี้ก็เพื่อตอกย้ำจุดยืนในฐานะผู้จัดงานที่ใหญ่ที่สุดเพียงรายเดียวที่เน้นเฉพาะดนตรีในแนวเฮ้าส์ เทคโน และอิเล็กทรอนิกา นอกจากนี้ เพื่อเป็นการต่อยอดจากงาน คัลเลอร์ อิน เดอะ พาร์ค ทางทีมงานคัลเลอร์กำลังวางแผนพัฒนาปาร์ตี้ฉีกแนวสุด เอ็กซ์คลูซีฟภายใต้แนวคิดแบบ อันเดอร์กราวด์ อาทิ คัลเลอร์ แวร์เฮ้าส์ (Kolour Warehouse), คัลเลอร์ ไลฟ์ (Kolour Live), คัลเลอร์ บีชไซด์ (Kolour Beachside) และคัลเลอร์ ซันเดย์ (Kolour Sundays)