ซึ่งคอนเสิร์ตที่เกิดขึ้นในครั้งนี้ นับเป็นการจัดคอนเสิร์ตภายใต้แบรนด์ Super Show ติดต่อกันเป็นปีที่ 7 แล้ว แถมกระแสตอบรับจากแฟนคลับชาวไทยยังคงร้อนแรงไม่เปลี่ยนแปลง กับการที่บัตรคอนเสิร์ตจำนวน 10,000 กว่าใบ ถูกจำหน่ายหมดภายในระยะเวลาเพียงแค่ 5 นาทีเท่านั้น
โดยก่อนการแสดงเวลาประมาณ 15.30 น. บริษัท เอสเอ็ม ทรู จำกัด ต้นสังกัดในประเทศไทย และผู้จัดคอนเสิร์ตในครั้งนี้ ได้จัดงานแถลงข่าวคอนเสิร์ต ซึ่งหนุ่ม ๆ Super Junior อย่าง อีทึก (Leeteuk), ฮีชอล (Heechul), เยซอง (Yesung), ชินดง (Shindong), อึนฮยอก (Eunhyuk), ทงเฮ (Donghae) และชีวอน (Siwon) ได้ร่วมให้สัมภาษณ์อย่างเป็นกันเองกับสื่อมวลชนถึงความรู้สึกที่ได้กลับมาเยือนประเทศไทยในครั้งนี้ พร้อมกับคอนเสิร์ตเต็มรูปแบบครั้งที่ 7 ที่รับประกันความยิ่งใหญ่สมกับเป็นแบรนด์คอนเสิร์ต Super Show อันมีเอกลักษณ์ และได้เดินทางไปเสิร์ฟความสนุกมาแล้วทั่วโลก อีกทั้งยังเผยความประทับใจที่มีต่อประเทศไทย และแผนการในปีนี้อีกด้วย
ความสนุกเริ่มต้นขึ้นด้วยการเปิดตัว Super Junior อย่างมีลูกเล่น กับฉากแรกของคอนเสิร์ตที่มีตู้โชว์ชุดสูทเรียงรายอยู่กลางเวที ก่อนชุดจะหายไปในพริบตา กลายเป็นสมาชิกทั้ง 7 คนออกมาต้อนรับแฟน ๆ พร้อมความเท่ในเพลงจากอัลบั้มเต็มชุดที่ 8 Play อย่าง Black Suit ท่ามกลางเสียงกรี๊ดกระหึ่มฮอลล์ จากนั้นหนุ่ม Eunhyuk ก็ได้โชว์สเต็ปการเต้นขโมยซีนช่วงแรก ในเพลง Scene Stealer ตามด้วยสมาชิกทุกคนที่ออกมาดึงดูดทุกสายตากันแบบพร้อมเพรียง และโชว์เพลงฮิตสุดคุ้นหูอย่าง Mamacita หลังจากนั้นจึงทักทายผู้ชมอย่างเป็นทางการ โดยหนุ่ม ๆ ได้เตรียมภาษาไทยมาพูดเอาใจแฟน ๆ กันแบบจัดเต็ม ซึ่งทางด้านแฟนคลับก็สร้างความประทับใจให้หนุ่ม ๆ ผ่านโปรเจคท์แรก ด้วยการชูป้ายกระดาษที่มีความหมายว่า "ไม่มีวันไหนไม่คิดถึง" และแปรอักษรเป็น คำว่า "คิดถึง" ให้หนุ่ม Super Junior ได้ชื่นใจกันไปอีกด้วย
จากนั้นไปสัมผัสความตื่นตาตื่นใจผ่านหลากหลายเวทีการแสดงที่โชว์ความอลังการงานสร้างของโปรดักชั่น
ทั้งเวที แสง สี เสียง
ไม่ว่าจะเป็นไฮไลท์หลักของคอนเสิร์ตอย่างเวทีสุดพิเศษที่ออกแบบมาให้เหมือนยกสะพานจริง
ๆ มาไว้ในคอนเสิร์ต
และแชนเดอเลียร์ไล่ระดับที่ส่องประกายอยู่กลางเวทีอย่างสวยงาม
และยิ่งเพิ่มความน่าประทับใจให้กับช่วงที่ได้ดื่มด่ำไปกับเสียงร้องเพราะ ๆ
ในเพลงบัลลาดอย่าง One More Chance, Memories และ Stars Appear
สำหรับอีกช่วงที่สร้างความฮือฮา และเสียงหัวเราะ คือ การที่หนุ่ม ๆ แปลงร่างออกมาเป็นยอดมนุษย์ในเพลง Super Ranger ต่อด้วยการพาผู้ชมลุกขึ้นเต้นไปกับเพลงสนุก ๆ อย่าง Rokuko, Runaway, Too Many Beautiful Girl และ Magic
สำหรับอีกช่วงที่สร้างความฮือฮา และเสียงหัวเราะ คือ การที่หนุ่ม ๆ แปลงร่างออกมาเป็นยอดมนุษย์ในเพลง Super Ranger ต่อด้วยการพาผู้ชมลุกขึ้นเต้นไปกับเพลงสนุก ๆ อย่าง Rokuko, Runaway, Too Many Beautiful Girl และ Magic
ความสนุกยังไม่หมดแค่นั้น
เพราะพวกเขาได้เลือกเอาเพลงฮิตระดับโลกจากการโลดแล่นในวงการมากว่า 14
ปีมาแสดง ทั้งเพลง Sorry, Sorry, Bonamana, Mr. Simple, This is
love, It’s You และอีกหลากหลายเพลงจากอัลบั้มเต็มชุดล่าสุด
รวมถึงเพลงที่ถูกเปิดเผยเป็นครั้งแรกในคอนเสิร์ตอย่าง On and On และ Super Duper นอกจากนี้
ยังมีช่วงที่สมาชิกออกมาโชว์สกิลเรียกเสียงกรี๊ดสนั่นฮอลล์อย่างเวทีที่หนุ่ม
Donghae ออกมาเล่นเปียโน, Siwon เป็นดีเจ และ Heechul ออกมาโชว์ตีกลอง เป็นต้น
และแล้วก็เดินทางมาถึงช่วงสุดท้ายของคอนเสิร์ตที่อบอวลไปด้วยความอบอุ่น โดยลีดเดอร์หนุ่ม Leeteuk ได้ออกมาอ่านจดหมายใจความสุดซึ้งสื่อถึงแฟนคลับ และปิดฉากช่วงเวลาอันแสนวิเศษลงด้วยเพลงสุดท้ายอย่าง Miracle ด้านแฟนคลับชาวไทยได้ทำโปรเจคท์ชูป้ายภาษาเกาหลีที่มีความหมายว่า "SJ + ELF = MIRACLE ทุกช่วงเวลาที่เราอยู่ด้วยกันคือเรื่องมหัศจรรย์" เรียกได้ว่า การกลับมาคราวนี้หนุ่ม ๆ Super Junior จัดให้เต็ม ๆ แบบครบทุกรส ทั้งความสนุก ความสุข และซาบซึ้ง ตลอดการแสดงกว่า 3 ชั่วโมง ผ่าน 30 บทเพลง ท่ามกลางความทรงจำดี ๆ ที่ได้ร่วมกันสร้างไปกับทุกคนอีกครั้งผ่านคอนเสิร์ตนี้
และแล้วก็เดินทางมาถึงช่วงสุดท้ายของคอนเสิร์ตที่อบอวลไปด้วยความอบอุ่น โดยลีดเดอร์หนุ่ม Leeteuk ได้ออกมาอ่านจดหมายใจความสุดซึ้งสื่อถึงแฟนคลับ และปิดฉากช่วงเวลาอันแสนวิเศษลงด้วยเพลงสุดท้ายอย่าง Miracle ด้านแฟนคลับชาวไทยได้ทำโปรเจคท์ชูป้ายภาษาเกาหลีที่มีความหมายว่า "SJ + ELF = MIRACLE ทุกช่วงเวลาที่เราอยู่ด้วยกันคือเรื่องมหัศจรรย์" เรียกได้ว่า การกลับมาคราวนี้หนุ่ม ๆ Super Junior จัดให้เต็ม ๆ แบบครบทุกรส ทั้งความสนุก ความสุข และซาบซึ้ง ตลอดการแสดงกว่า 3 ชั่วโมง ผ่าน 30 บทเพลง ท่ามกลางความทรงจำดี ๆ ที่ได้ร่วมกันสร้างไปกับทุกคนอีกครั้งผ่านคอนเสิร์ตนี้