

งานนี้ผู้จัดหน้าใหม่ไฟแรง อย่าง ไอเอ็มอี โปรดักชั่นส์ (ประเทศไทย) จำกัด หรือ ไอมี่ไทยแลนด์ (iMEThailand) ก็เอาใจเหล่าพรีมาดอนน่า (ชื่อแฟนคลับ) ด้วยการพาหนุ่ม ๆ มาระเบิดความมันกับทัวร์คอนเสิร์ต ซึ่งที่ไทยในครั้งนี้ ถึงแม้ว่าจะขาดหนึ่งสมาชิก ชเวจงฮุน ที่ป่วยหนักไม่สามารถมาปิดทัวร์คอนเสิร์ตกับพรีมาดอนน่าไทยได้ แต่ 4 สมาชิกก็ไม่ทำให้แฟน ๆ ผิดหวัง เพราะหลังจากที่เปิดตัวด้วยเพลงแรกอย่าง Out of Love เหล่าพรีมาดอนน่าก็ลุกขึ้นมากระโดด และโยกตามกันอย่างสนุกสนาน เพื่อความต่อเนื่อง หนุ่ม ๆ ก็ต่อด้วยเพลง Lose, Time to และ Cycle ทันทีแบบไม่ได้พักกันเลยทีเดียว
ก่อนที่จะให้แฟน ๆ ได้พักพร้อมทักทายกันอย่างเป็นทางการ "สวัสดีครับพวกเรา FTISLAND ครับ" หลังจากนั้นหนุ่มฮงกิก็เริ่มทักทาย และพูดคุยกับแฟน ๆ เป็นคนแรก "นานแล้วที่ไม่ได้เจอกัน มากันเยอะมากเลยนะครับวันนี้ พวกเราอยากจะบอกว่าทัวร์คอนเสิร์ตในประเทศไทยครั้งนี้เป็นประเทศสุดท้ายของทัวร์คอนเสิร์ตรอบนี้นะครับ ตอนแรกพวกเราก็จะมีคอนเสิร์ตกันก่อนหน้านี้ แต่ก็ต้องเลื่อนมา ต้องขอโทษด้วยนะครับ แต่ผมมีความสุขมากที่ทุกคนยังมาให้กำลังใจกันเยอะขนาดนี้ ขอบคุณมากครับ ประเทศไทยร้อนมาก ๆ เลยนะครับ วันนี้ก็ร้อนมากเลย ในเมื่อพวกเราไม่ได้มาเมืองไทยนานแล้วก็อยากจะขอพูดภาษาไทยกันหน่อยนะครับ" "ผมอีฮงกิครับ" ต่อกันด้วยภาษาไทยของหนุ่มแจจิน "ไม่ได้เจอกันนานเลยนะครับ สวัสดีครับ ขอบคุณครับ" ตามมาด้วย "ไม่ได้เจอกันนานนะครับ คิดถึงทุกคนนะครับ ขอบคุณครับ" ของหนุ่มซึงฮยอน ปิดท้ายด้วยประโยคอ้อนของมินฮวันว่า "ผมอยากกลับมาจริง ๆ เลย รักนะจุ๊บ ๆ" แถมฮงกิยังอ้อนกันต่อเนื่องว่าไม่ได้มาหาแฟน ๆ นานแล้ว มาครั้งนี้สนุกมาก และคิดถึงทุกคนมาก อยากให้ทุกคนเต็มที่กับคอนเสิร์ตในวันนี้เพราะเป็นประเทศสุดท้ายของการทัวร์คอนเสิร์ตแล้ว
หลังอ้อนพรีมาดอนน่ากันมาหอมปากหอมคอแล้ว ก็ไปมันกันต่อเนื่องแบบไม่มีพักอีก 3 เพลงรวดไม่ว่าจะเป็น PAPARAZZI, I HOPE (바래) , FREEDOM นอกจากขนเพลงฮิตในอัลบั้มเกาหลี มาโชว์แฟน ๆ แล้ว พวกเขาก็ได้นำเพลงในอัลบั้มภาษาญี่ปุ่นอย่าง ORANGE DAYS, HOURGLASS มาแปลเนื้อเป็นภาษาเกาหลีเพื่อร้องให้แฟน ๆ ได้ฟังกันด้วย


และเพื่อให้แฟน ๆ ได้พักอีกครั้ง พวกเขาจึงได้เนรมิตเวทีให้เป็นเหมือนบาร์ขนาดย่อม พร้อมขับกล่อมแฟน ๆ ด้วยเพลงเพราะ ๆ อย่าง A MAN’S FIRST LOVE FOLLOWS HIM TO THE GRAVE (남자의 첫 사랑은 무덤까지 간다) และเพลง THUNDER (천둥) ซึ่งสองเพลงนี้ก็ได้แบนด์มาสเตอร์ของหนุ่ม ๆ มาเล่นกีตาร์แทนหนุ่ม ชเวจงฮุน ที่ไม่สามารถมาร่วมคอนเสิร์ตในครั้งนี้ได้ ต่อด้วยอีกหนึ่งซีนที่สวยงามในคอนเสิร์ตครั้งนี้ก็คงเป็นการยิงภาพกราฟิกสวย ๆ ผ่านฉากผ้า ที่ค่อย ๆ เลื่อนลงมาในเพลงช้า ที่หนุ่มฮงกิบอกว่าอยากให้แฟน ๆ อินไปกับความเศร้าในเพลง STAND BY ME, WALKING DEAD และ CRYING IN THE RAIN
และก่อนที่จะลากันไปกับคอนเสิร์ตในครั้งนี้ หนุ่มอีฮงกิ ก็บอกว่าอยากที่จะขนเอาเพลงทั้งอัลบั้มเกาหลี และญี่ปุ่นมาเล่นให้แฟน ๆ เหล่าพรีมาดอนน่าชาวไทยได้ฟังกัน เพราะมีโอกาสมาเมืองไทยแค่ปีละครั้งสองครั้งเท่านั้น นอกจากนี้ยังขอบคุณแฟน ๆ ที่ยังคอยอยู่เคียงข้างกันมานานถึง 10 ปี อาจจะมีท้อบ้างแต่เพื่อแฟน ๆ ทุกคน ทำให้สามารถกลับมาร้องเพลงได้ และปีนี้พวกเขาสัญญาว่าจะตั้งใจ และขยันทำงานเพลงเพื่อแฟน ๆ ทุกคนด้วย และก็มันกันอย่างต่อเนื่องแบบไม่มีใครยอมใครกับเพลง BLACK CHOCOLATE, PRAY และเพลง TAKE ME NOW
แม้เวลาแห่งความสนุกมักจะผ่านไปอย่างรวดเร็ว แต่สำหรับพรีมาดอนน่าไทยแล้วถึงแม้ว่าคอนเสิร์ตจะผ่านไปนานแล้ว แต่ความรู้สึกคล้ายเพิ่งผ่านไปเพียงไม่กี่นาทีเท่านั้น ทั้งความสนุก ความมันยังคงอินอยู่ในร่างกาย และหัวใจ พวกเขาจึงร้องเรียกทั้ง 4 หนุ่มให้กลับมาสนุกกันบนเวทีอีกครั้ง และแล้วเสียงเรียกร้องจากด้านหน้าเวทีก็ส่งไปถึงด้านหลัง ทั้ง 4 หนุ่มก็กลับมาอีกครั้งกับเพลง BECOMING YOU (너에게 물들어) และคำมั่นสัญญาว่า พวกเขาจะตั้งใจทำงาน และกลับมาหาแฟน ๆ อีก จากนั้นก็ลากันไปกับเพลงซึ้ง ๆ ความหมายดี ๆ อย่าง WE ARE... นอกจากแฟน ๆ จะประทับใจกับคอนเสิร์ตในครั้งนี้แล้ว หนุ่ม ๆ FTISLAND เองก็ประทับใจกับโปรเจคท์ครบรอบ 10 ปี ที่แฟน ๆ ทำให้ด้วยเช่นกัน นับว่าเป็นการปิดท้ายทัวร์คอนเสิร์ต 2017 FTISLAND LIVE THE TRUTH IN BANGKOK ของพวกเขาได้อย่างสวยงาม
และนี่ก็เป็นอีกหนึ่งโปรเจคท์ดี ๆ ที่ IME THAILAND ได้มอบให้กับแฟน ๆ
แต่ในอนาคตเราก็ยังมีโปรเจคท์ดี ๆ อีกมากมาย ติดตามรายละเอียดงานต่าง ๆ ของ
IME Thailand ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ เฟซบุ๊ก IME TH หรือ Twitter : @ime_th และ Instagram : @ime_th





