ยงสิทธิ์ ยงกมล มือแซ็กตาบอดไทย รับเชิญโชว์เวทีโลก

 



เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก Youtube.com โพสต์โดย paaoobtong123

           ความพิการไม่ได้เป็นอุปสรรคต่อความยิ่งใหญ่ คำกล่าวนี้ดูท่าจะเป็นจริง สำหรับนายยงสิทธิ์ ยงกมล มือแซ็กโซโฟนผู้พิการทางสายตา ซึ่งล่าสุด เขาได้รับรางวัล VSA International Young Soloists Award 2012 รางวัลที่คัดสรรผลงานทางดนตรีของผู้พิการที่ไม่จำกัดแนว ทั้งคลาสสิก ป็อป ร็อก คันทรี ฯลฯ ทั้งแบบเดี่ยวและแบบกลุ่มที่มีอายุตั้งแต่ 14-25 ปีจากทั่วโลก แล้วคัดกรองจนเหลือนักดนตรีระดับหัวกะทิเพียง 4 คน โดยนายยงสิทธิ์ได้รับเงินรางวัลมูลค่า 5,000 เหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 150,000 บาท พร้อมได้รับเชิญไปแสดงที่ จอห์น เอฟ.เคนเนดี เซ็นเตอร์ กรุงวอชิงตัน ดี.ซี. ประเทศสหรัฐอเมริกา ซึ่งเป็นหอแสดงดนตรีระดับโลกที่มีชื่อเสียงโด่งดังไม่แพ้คาร์เนกีฮอลล์ ในวันที่ 17 มิถุนายน 2555 นี้

           นายยงสิทธิ์ ให้สัมภาษณ์ว่า ได้รับการแนะนำจากอาจารย์เดวิด แน็บ ที่เคยมาสอนดนตรีว่า ให้ลองส่งผลงานเข้าประกวดในรายการนี้ ซึ่งในตอนแรกก็ทำผลงานส่งไปออดิชั่น หรือทดสอบความสามารถโดยที่ยังไม่รู้ว่า จอห์น เอฟ.เคนเนดี เซ็นเตอร์ มีความยิ่งใหญ่อลังการแค่ไหนอย่างไร กระทั่งอาจารย์เชน ลี อาจารย์ที่ปรึกษา บอกว่า หอแสดงดนตรีแห่งนั้นเป็นสถานที่ที่วิเศษนักดนตรีทั่วโลกล้วนอยากมาเล่นที่นี่ ตนจึงภูมิใจมากที่ได้เป็น 1 ใน 4 คนที่ได้รับรางวัลอันทรงคุณค่า และเป็นคนไทยคนหนึ่งที่ได้มีโอกาสไปแสดงในสถานที่ระดับโลก

           สำหรับ นายยงสิทธิ์ ยงกมล มีชื่อเล่นว่า นิล เป็นคนกรุงเทพมหานครโดยกำเนิด เขาไม่ได้สูญเสียการมองเห็นมาตั้งแต่เกิด แต่เป็นความผิดพลาดของโรงพยาบาลที่ลืมเอาผ้าปิดตาขณะนำตัวเขาซึ่งเป็นทารกคลอดก่อนกำหนดเข้าตู้อบ เป็นสาเหตุทำให้จอประสาทตาเสื่อม และค่อย ๆ บอดในที่สุด

           นายยงสิทธิ์ เริ่มสนใจดนตรีตั้งแต่เด็ก ๆ ตอนอายุ 5 ขวบ มีอาจารย์มาสอนเปียโนที่บ้าน แต่ด้วยความเป็นเด็กจึงอยากเล่นมากกว่าอยากเรียนให้จริงจัง จนกระทั่งมาเรียนที่โรงเรียนสาธิตสวนสุนันทา มีครูชวนไปเล่นวงขลุ่ยซึ่งใช้สองลายประสานกัน ในช่วงนี้เอง มีอาจารย์ท่านหนึ่งได้ช่วยแนะนำให้รู้จักกับ อ.สุกรี เจริญสุข ซึ่งขณะนั้นสอนดนตรีอยู่ที่โรงเรียนเอื้อมอารีย์ที่เซ็นทรัลปิ่นเกล้า ในช่วงนั้นเขาได้เรียนเปียโนและแซ็กโซโฟนด้วย

           จากนั้น นายยงสิทธิ์ ได้มาสอบเข้าที่คณะดุริยางคศิลป์ มหาวิทยาลัยมหิดล ซึ่งเครื่องดนตรีที่ถนัดคือ แซ็กโซโฟนและเปียใน แต่ในระหว่างที่เรียนไม่สามารถสอบผ่านเปียโน จึงหันมาเล่นแซ็กโซโฟนแทน สามารถเล่นได้ในแนวคลาสสิค ป็อบ และแจ๊ส (พอได้) เขาบอกว่า สิ่งที่ยากในการเล่นคือ ต้องจำโน้ตโดยเฉพาะเวลาเรียนเพลงคลาสสิค จะใช้วิธีให้อาจารย์เป่าและอัดไว้ให้ฟัง บางครั้งใช้วิธีการทำการบ้านมาก่อนที่จะเข้าเรียน ในตอนหลังมีโน๊ตเบรลล์มาช่วยบันทึกความจำด้วย แต่ไม่ได้ใช้บ่อยนักเนื่องจากไม่ได้ใช้เป็นหลักมาตั้งแต่เริ่มต้น รายละเอียดโน้ตที่ยากก็ต้องซ้อมซ้ำ ๆ หลายเที่ยว

           ปัจจุบัน นายยงสิทธิ์จบการศึกษาระดับปริญญาตรีด้วยเกียรตินิยมอันดับ 1 ขณะนี้กำลังศึกษาอยู่ในระดับปริญญาโทชั้นปีที่ 1 วิทยาลัยดุริยางคศิลป์ ม.มหิดล ในขณะที่เรียนได้ร่วมเล่นแซ็กโซโฟนในโอกาสต่าง ๆ ทั้งในและนอกประเทศเสมอ เช่น ร่วมเล่นกับวงมหิดลซิมโฟนิคแบนด์และวงไทยแลนด์แซ็กโซโฟน สำหรับในระดับนานาชาติ เคยไปเล่นที่ประเทศสโลวีเนียในงานแซกโซโฟนครองเกรสครั้งที่ 14 ในปี พ.ศ.2549 และงาน International Band Festival 2009 ที่กรุงปักกิ่ง

           ในด้านการแข่งขัน เขาเคยประกวดร่วมกับวงสารศาสตร์เอ็กตร้าด้วยกัน 2 ครั้งในปี พ.ศ.2551 ได้รางวัลที่สอง ปี พ.ศ.2552 ได้รางวัลที่หนึ่งในประเภทอาเซียนซิมโฟนิคแบนด์คอมเพทิชั่น และแข่งขันในรายการเยาวชนดนตรีแห่งประเทศไทย ครั้งที่ 14 (Settrade Competition14th) ประจำปี พ.ศ.2553 ได้รางวัลเหรียญทอง เป็นต้น และเมื่อเร็ว ๆ นี้ได้รับเชิญเป็นศิลปินพิเศษในงานมหกรรมดนตรีคนพิการแห่งเอเชีย-แปซิฟิก ครั้งที่ 11

           และเราก็ขอนำผลงานการเป่าแซ็กโซโฟนของชายตาบอดผู้มีความสามารถคนนี้มาฝากกัน เขาจะบรรเลงได้ไพเราะเพราะพริ้งเพียงใด มาชมกันเลยจ้า