วิทนีย์ ฮูสตัน
เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
เจ้าหน้าที่เผยผลชันสูตรเพิ่มเติม พบ ผงขาว-อุปกรณ์เสพยา ในห้องน้ำโรงแรมที่ วิทนีย์ ฮูสตัน เสียชีวิต
เมื่อวันที่ 4 เมษายน เจ้าหน้าที่เผยผลการชันสูตรพลิกศพครั้งสุดท้ายเพิ่มเติมของ วิทนีย์ ฮูสตัน ว่า พบอุปกรณ์ในการเสพยาส่วนตัวของเธอ รวมถึงผงสีขาวในห้องพัก ก่อนที่จะพบว่าเธอเสียชีวิตอยู่ในอ่างอาบน้ำ ของห้องพักในโรงแรมเบเวอร์ลีฮิลตัน ในนครลอสแองเจลิส
โดยผลการชันสูตรพลิกศพฉบับเต็มความยาว 42 หน้า ระบุด้วยว่า พบกระดาษสำหรับใช้ทำบุหรี่สูบเองและช้อนขนาดเล็ก รวมถึงกระจกแบบพกได้ที่พบว่ามีผงสีขาวบางส่วนวางอยู่ด้านบนในห้องน้ำ แต่ไม่ได้ระบุว่าผงดังกล่าวคือโคเคนหรือไม่ อีกทั้งโพรงจมูกด้านในของเธอยังมีสภาพเป็นรู ซึ่งเป็นสัญญาณของการใช้วัตถุบางอย่างแทงเข้าไปติดต่อกันเป็นเวลานานด้วยเช่นกัน
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก
[23 มีนาคม] ผลชันสูตรศพ ฮูสตัน พบเสพติดโคเคนเรื้อรัง
ผลชันสูตรศพ ฮูสตัน พบเสพติดโคเคนเรื้อรัง (ไอเอ็นเอ็น)
ผลชันสูตรศพ ยืนยัน วิทนีย์ ฮูสตัน เสียชีวิตจากอุบัติเหตุจมน้ำ อันเนื่องมาจากผลกระทบของโรคหัวใจและการใช้โคเคน
วันนี้ (23 มีนาคม) สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานว่า เจ้าหน้าที่เปิดเผยรายงานผลการชันสูตรทางพิษวิทยา เมื่อวันพฤหัสบดี (22 มีนาคม ตามเวลาท้องถิ่นสหรัฐฯ) ต่อกรณีการเสียชีวิตของ วิทนีย์ ฮูสตัน นักร้องสาวเสียงสวรรค์ ที่เสียชีวิต เมื่อวันที่ 11 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ด้วยวัย 48 ปี ภายในห้องพักของโรงแรมเบเวอร์ลีฮิลตัน ย่านเบเวอร์ลีฮิลส์ รัฐแคลิฟอร์เนีย โดยระบุว่า จากการตรวจพิสูจน์ทางพิษวิทยา พบร่องรอยของการเสพกัญชา และการใช้ยาซาแนกซ์, Flexiril และยาที่สามารหาซื้อได้ทั่วไปอย่าง เบนาดริล (Benadryl)
ก่อนหน้านี้ ในวันพบศพ เจ้าหน้าที่ระบุว่า พบขวดยาหลายชนิด ซึ่งเป็นยาตามใบสั่งแพทย์ในห้องพักของฮูสตัน แต่เจ้าหน้าที่ชันสูตรศพ กล่าวว่า ไม่มีการตรวจพบว่า มีการใช้ยาเกินขนาด
และจากการประกาศผลการตรวจพิสูจน์ทางพิษวิทยา โดย เครก ฮาร์วี โฆษกทีมพิสูจน์ศพ ได้ระบุว่า สารโคเคนที่พบในระบบร่างกายของฮูสตัน เป็นสิ่งที่สามารถระบุถึงปัจจัยการเสียชีวิต พร้อมระบุว่า ผลการตรวจพิสูจน์ ทำให้ทราบด้วยว่า ฮูสตัน เป็นผู้เสพติดโคเคนเรื้อรัง
[19 กุมภาพันธ์] พิธีศพ วิทนีย์ ฮุสตัน จัดสมเกียรติ ดาราดังร่วมไว้อาลัย
เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก bittenandbound.com
ครอบครัว เพื่อน ดาราดัง ร่วมไว้อาลัย วิทนีย์ ฮุสตัน ครั้งสุดท้าย ขณะที่พิธีศพจัดได้สมเกียรติ
ข่าวการจากไปของ วิทนีย์ ฮุสตัน นักร้องชื่อดังระดับโลก ซึ่งหลังจากที่แพทย์ได้นำร่างไร้วิญญาณของเธอไปชันสูตร และเก็บตัวอย่างไว้ศึกษาสาเหตุการตายอย่างละเอียดเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ก็ได้มีการนำศพของนักร้องดังระดับตำนานเคลื่อนย้ายขึ้นเครื่องบินจากลอสแองเจลิส ไปยังบ้านเกิดที่รัฐนิวเจอร์ซีย์ ประเทศสหรัฐอเมริกา เพื่อให้ครอบครัวได้นำไปประกอบพิธีทางศาสนาต่อไปนั้น
และในช่วงเที่ยงของวันที่ 18 กุมภาพันธ์ตามเวลาท้องถิ่น สำนักข่าวซีเอ็นเอ็นของสหรัฐอเมริกา ได้รายงานสด การจัดพิธีศพที่โบสถ์ นิว โฮป แบพติสส์ ที่เมืองนวร์ก รัฐนิวเจอร์ซี่บ้านเกิดของเธอ โดยมีสมาชิกครอบครัวและเหล่าศิลปินชื่อดังแห่ร่วมงานกันคับคั่ง ซีสซี่ ฮุสตัน แม่ของวิทนีย์กอดปลอบใจบอบบี้ คริสติน่าหลานสาวของเธออยู่แถวหน้าของโบสถ์ ก่อนที่ไคล์ ดาวี่ส์ ผู้ที่คอยดูแลและให้คำปรึกษา วิทนีย์ ฮุสตัน จะขึ้นกล่าวบนแท่นพิธีว่า "เราจะดูแลบอบบี้ คริสติน่า เป็นอย่างดีและเชื่อแน่ว่า คุณไม่ได้จากลูกสาวของคุณไปไหนเลยวิทนีย์"
ส่วนทางด้านศิลปิน นักแสดงผู้มีชื่อเสียงทั้งหลายที่มาร่วมงาน และผู้ที่ได้รับเชิญให้กล่าวคำไว้อาลัยให้แก่เธอก็ อาทิ เควิน คอสเนอร์ ผู้ร่วมแสดงภาพยนตร์ชื่อดังเรื่อง The Bodyguard กับเธอ โดยเขากล่าวว่า "วิทนีย์ รู้สึกไม่มั่นใจว่าเธอจะแสดงบทบาทในเรื่อง The Bodyguard ได้ดีพอ แต่ฉันก็เป็นบอดี้การ์ดให้เธอจนกระทั่งเธอจากไป จนถึงตอนนี้ก็จะมีนางฟ้าทั้งหลายบนสวรรค์มาคอยคุ้มกันเธอต่อไป"
นอกจากนี้ ในงานยังมีนักร้องชื่อดังอย่างสตีวี่ วอนเดอร์มาร่วมงานและร้องเพลง Ribbon In The Sky and Love\'s In Need เพื่อไว้อาลัยด้วย ก่อนที่จะยอมรับว่าเคยมีความสัมพันธ์เล็ก ๆ กับ วิทนีย์ ฮุสตัน ส่วนนักร้องเสียงดีอีกคนอย่างอลิเชีย คีส์ และ อาร์ เคลลี่ ก็ร่วมแสดงเพลงของเธอ I Look to you จากนั้นนายกเทศมนตรีเมืองนวร์กก็ได้ออกมากล่าวคำไว้อาลัยแด่วิทนีย์ ฮุสตัน เช่นกัน
ทั้งนี้ อดีตสามีอย่างบอบบี้ บราวน์ก็ได้มาร่วมงานเป็นเวลาสั้น ๆ ก่อนที่จะถูกเชิญออกไปเนื่องจากมีปัญหาเรื่องความปลอดภัย ส่วนแม่ทูลหัวของเธอ อเรธ่า แฟลงคลินที่ต้องมาขึ้นร้องเพลงในงานไว้อาลัยของเธอก็ต้องขอยกเลิกในวินาทีสุดท้ายเนื่องจากปัญหาเรื่องสุขภาพ
และท้ายที่สุด เมื่อเสร็จสิ้นพิธีอาลัยเป็นครั้งสุดท้ายแล้ว โลงศพของวิทนีย์ ฮุสตัน ก็ถูกปิดลงและถูกนำออกไปจากโบสถ์ พร้อมเปิดเพลงดังตลอดกาลของเธออย่าง I Will Always Love You
เพลง I Will Always Love You ที่เปิดไว้อาลัยครั้งสุดท้ายให้กับ วิทนีย์ ฮุสตัน (Whitney Houston)
[16 กุมภาพันธ์] วิจารณ์เหมาะไหม? ลดธงไว้อาลัย วิทนีย์ ฮุสตัน
Whitney Houston
เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ผู้ว่าการรัฐนิวเจอร์ซีย์ ประกาศลดธงครึ่งเสา ไว้อาลัยการเสียชีวิต วิทนีย์ ฮุสตัน – เกิดกระแสวิจารณ์ ไม่เหมาะสม เหตุ วิทนีย์ พัวพันยาเสพติด
จากกรณีการเสียชีวิตอย่างกะทันหันของ วิทนีย์ ฮุสตัน นักร้องชาวอเมริกันชื่อก้องโลก วัย 48 ปี เสียชีวิตคาห้องพักโรงแรมเบเวอร์ลี ฮิลตัน ย่านเบเวอร์ลีฮิลส์ นครลอสแองเจลิส รัฐแคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 11 กุมภาพันธ์ ซึ่งพิธีศพของนักร้องดังจะมีการจัดขึ้นอย่างเป็นส่วนตัว ที่โบสถ์นิวโฮปแบ็บทิสต์ ในเมืองนวร์ก รัฐนิวเจอร์ซีย์ ในวันเสาร์ที่ 18 กุมภาพันธ์นี้ ตามที่ได้เสนอข่าวไปแล้วนั้น
ล่าสุด วานนี้ (15 กุมภาพันธ์) คริส คริสตี ผู้ว่าการรัฐ นิวเจอร์ซี่ เตรียมประกาศให้อาคารรัฐบาลทุกแห่งในรัฐนิวเจอร์ซีย์ ลดธงลงครึ่งเสาในวันที่มีการจัดพิธีศพของเธอด้วย เพื่อเป็นการไว้อาลัยให้แก่การจากไปของ วิทนีย์ ฮุสตัน ผู้ซึ่งเป็นราชินีเพลงพ็อพ/อาร์แอนด์บี ขวัญใจของคนทั่วโลก พร้อมยกให้วิทนีย์ ฮุสตัน เป็น "สัญลักษณ์" ทางวัฒนธรรมของ นิวเจอร์ซี เทียบเท่ากับ แฟรงค์ ซิเนตรา, เคาน์ เบซี และ บรูซ สปริงสทีน
อย่างไรก็ตาม การลดธงลงครึ่งเสาเพื่อไว้อาลัยให้แก่ วิทนีย์ ฮุสตัน นักร้องระดับตำนานของโลก ก็ทำให้เกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์เช่นเดียวกันว่า เป็นสิ่งที่ไม่เหมาะสม เนื่องจากการลดธงเป็นการไว้อาลัยให้แก่บุคคลสำคัญ อีกทั้ง วิทนีย์ ฮุสตัน ยังมีข่าวพัวพันเกี่ยวกับยาเสพติดด้วยเช่นกัน
ขณะที่ทางด้าน ผู้ว่าการรัฐ คริสตี ยังคงยืนยันการกระทำนี้เช่นเดิม อีกทั้งยังมีกลุ่มประชาชนที่สนับสนุนเช่นกันว่า วิทนีย์ ฮุสตัน ถือได้ว่าเป็นบุคคลที่สร้างชื่อเสียงด้านดนตรี เป็นต้นแบบให้นักร้องหลายคน และสำหรับกรณีที่มีข่าวติดยาเสพติด เจ้าหน้าที่ตำรวจก็ยังไม่ได้ระบุสาเหตุของการเสียชีวิตอย่างแน่ชัด โดยต้องรอผลการชันสูตรอย่างละเอียดประมาณ 6-8 สัปดาห์เลยทีเดียว
จัดพิธีศพวิทนีย์เสาร์นี้ มุ่งปมเลสเบี้ยนทำชีวิตขมขื่น
เมื่อวันที่ 15 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา เว็บไซต์เดลิเมลของอังกฤษ รายงานความคืบหน้าเกี่ยวกับพิธีศพของวิทนีย์ ฮูสตันว่า พิธีศพของนักร้องดังจะจัดขึ้นอย่างเป็นส่วนตัวในวันเสาร์ที่ 18 กุมภาพันธ์นี้ ขณะที่ทางด้าน บ็อบบี้ บราวน์ อดีตสามีนั้น มีข่าวว่าไม่ได้รับเชิญให้เข้าร่วมพิธีศพแต่อย่างใด ส่วนเพื่อนนักร้องดังออกมาเผย ปมหญิงรักหญิงอาจเป็นสาเหตุให้เครียดจนติดยา และดื่มเหล้า
รายงานระบุว่า พิธีศพของวิทนีย์ ฮูสตัน จะจัดขึ้นอย่างเป็นส่วนตัวในช่วงบ่ายของวันที่ 18 กุมภาพันธ์นี้ ที่โบสถ์นิวโฮปแบ็บทิสต์ ในเมืองนวร์ก รัฐนิวเจอร์ซีย์ ซึ่งเป็นสถานที่ที่วิทนีย์ได้โชว์พลังเสียงครั้งแรกในวัยเด็ก โดยผู้ที่เข้าร่วมงานศพได้ จะมีแต่ครอบครัว ญาติ ๆ และแขกที่ได้รับเชิญเท่านั้น ซึ่งก็ทำให้แฟนเพลงของวิทนีย์ต้องผิดหวังที่ครอบครัวไม่มีการจัดพิธีไว้อาลัยแบบสาธารณะที่สนามกีฬากลางที่มีการคาดการณ์กันไว้ก่อนหน้านี้ แต่ถึงจะเป็นอย่างนั้น ตั้งแต่มีการเปิดเผยสถานที่จัดพิธีศพของนักร้องดังออกมา แฟนเพลงก็ได้นำดอกไม้ ลูกโป่ง และการ์ดไว้อาลัยไปวางไว้หน้าโบสถ์เพื่อแสดงความไว้อาลัยอย่างต่อเนื่อง ขณะที่ทางสถานีโทรทัศน์ก็อาจมีการออกอากาศพิธีศพของวิทนีย์ทางทีวีในวันเสาร์นี้
ส่วนทางด้าน บ็อบบี้ บราวน์ อดีตสามีของนักร้องดังนั้น มีข่าวเปิดเผยจากคนใกล้ชิดว่า เขาไม่ได้รับเชิญให้เข้าร่วมพิธีศพของวิทนีย์ แม้ว่าจะเคยใช้ชีวิตคู่กับวิทนีย์นานถึง 14 ปีก็ตาม ทั้งนี้ เนื่องจากครอบครัวของวิทนีย์ไม่ปลื้มเขา แต่อย่างไรก็ดี ข่าวนี้ยังไม่มีการยืนยันอย่างเป็นทางการแต่อย่างใด ขณะที่ทางด้าน บ็อบบี้ คริสติน่า ลูกสาวของนักร้องดัง ยังคงอยู่ในอาการเศร้าโศกเสียใจ หลังดื่มเหล้าหนักเพราะทำใจกับการจากไปของแม่ไม่ได้ จนต้องหามส่งโรงพยาบาลถึง 2 ครั้ง
ทั้งนี้ แม้ว่าพิธีศพนักร้องดังจะมีขึ้นในวันเสาร์นี้แล้ว แต่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ยังคงสืบสวนคดีนี้ต่อไป เนื่องจากการเสียชีวิตของวิทนีย์ยังคงเป็นปริศนา ซึ่งขณะนี้กำลังอยู่ระหว่างรอผลการชันสูตรอย่างละเอียดที่จะต้องใช้เวลา 6-8 สัปดาห์เลยทีเดียว
และในขณะที่การสืบสวนสาเหตุการเสียชีวิตของนักร้องดังกำลังดำเนินไปนั้น ทางด้านเพื่อน ๆ และคนใกล้ชิดของวิทนีย์ ก็ได้ออกมาเปิดเผยถึงปมที่ทำให้นักร้องดังกินยาคลายเครียดและดื่มเหล้าหนักจนเสียชีวิตว่า มีความเป็นไปได้สูงที่วิทนีย์จะรู้สึกเครียดและขมขื่นกับการต้องปิดบังตัวตนที่เป็นเลสเบี้ยน หรือหญิงรักหญิง จนต้องหันไปพึ่งยาเสพติด ยาคลายเครียด และดื่มเหล้าอย่างหนัก จนทำให้เสียชีวิตดังกล่าว
โดย ปีเตอร์ แทตเชล นักเคลื่อนไหวเรียกร้องสิทธิเกย์ซึ่งเป็นเพื่อนของวิทนีย์ ได้เปิดเผยว่า ที่วิทนีย์แต่งงานและใช้ชีวิตคู่กับบ็อบบี้ บราวน์ ก็เพื่อปกปิดตัวตนที่แท้จริงของตัวเองที่มีรสนิยมหญิงรักหญิง แต่ช่วงชีวิตที่เธอดูมีความสุขมากที่สุดก็คือช่วงปี 1980 เพราะเป็นช่วงเวลาที่เธอได้ใช้ชีวิตอยู่กับ โรบีน ครอว์ฟอร์ด เพื่อนหญิงสมัยเรียนที่กลายมาเป็นผู้ช่วยของเธอเมื่อเธอโด่งดัง แต่เมื่อเธอต้องมาแต่งงานกับบ็อบบี้ บราวน์ มันเป็นเหมือนช่วงชีวิตที่จมดิ่งลงเหว
ส่วนทางด้าน ทีน่า บราวน์ น้องสาวของบ็อบบี้ บราวน์ และเควิน แอมมอนส์ อดีตบอดี้การ์ดของนักร้องดัง ได้เปิดเผยไปในทางเดียวกันว่า พวกเขาเคยเห็นช่วงเวลาที่วิทนีย์และโรบีนอยู่ด้วยกัน ท่าทีของทั้งคู่ดูลึกซึ้งเกินเพื่อนร่วมงานจริง ๆ และนอกจากนี้ บอดี้การ์ดของนักร้องดังยังเคยเขียนหนังสือเล่าเรื่องราวของวิทนีย์ว่า โรบีนเคยตบหน้าวิทนีย์เมื่อเห็นวิทนีย์หยอกล้อต่อกระซิกกับผู้ชาย และโกรธมากเมื่อวิทนีย์ประกาศแต่งงานกับบ็อบบี้ บราวน์ด้วย
ยิ่งไปกว่านั้น ไม่ใช่แค่เพียงเพื่อนและคนใกล้ชิดของนักร้องดังเท่านั้น ที่รู้ความจริงข้อนี้ แต่บ็อบบี้ บราวน์ เองก็รู้เช่นกัน โดยเขาเคยเปิดเผยเกี่ยวกับชีวิตคู่ระหว่างเขากับวิทนีย์ว่า เขาคิดว่าวิทนีย์แต่งงานกับเขาด้วยเหตุผลที่ผิด ๆ เลยทำให้ชีวิตแต่งงานระหว่างเธอกับเขาผิดพลาดตั้งแต่ต้น โดยวิทนีย์เองมีข่าวหญิงรักหญิงมานาน และมันเป็นภาพลักษณ์ที่ไม่ดีในสายตาใครหลาย ๆ คน เธอจึงตัดสินใจแต่งงานมีลูกกับเขา ก็เพื่อลบข่าวฉาวเรื่องหญิงรักหญิงนี้ และได้เป็นขวัญใจชาวอเมริกันเรื่อยมา
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก
[15 กุมภาพันธ์] สหรัฐฯ สั่งสอบหมอ จ่ายยา วิทนีย์ เกินขนาด
Whitney Houston
Whitney Houston
ตำรวจสันนิษฐาน วิทนีย์ กินยาหลายขนาน ผสมแอลกอฮอล์ ก่อนวูบจมน้ำในอ่าง จ่อเรียกตัวแพทย์ผู้จ่ายยามาสอบปากคำ
จากข่าวช็อกโลก กรณีการเสียชีวิตของ วิทนีย์ ฮุสตัน นักร้องชาวอเมริกันชื่อดัง วัย 48 ปี ราชินีเพลงพ็อพ/อาร์แอนด์บี เสียชีวิตคาห้องพักโรงแรมเบเวอร์ลี ฮิลตัน ย่านเบเวอร์ลีฮิลส์ นครลอสแองเจลิส รัฐแคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 11 กุมภาพันธ์นั้น
ล่าสุด วานนี้ (14 กุมภาพันธ์) เว็บไซต์เดลิเมลของอังกฤษ ได้เปิดเผยความคืบหน้าสาเหตุการเสียชีวิตของ วิทนีย์ ฮุสตัน ว่า จากผลการสอบสวนของตำรวจเบเวอร์ลี่ฮิลส์ พบว่า วิตนีย์ดื่มแอลกอฮอล์ และกินยาซาแน็กซ์ รวมทั้งยาคลายเครียด ก่อนเข้าไปนอนแช่ในอ่างอาบน้ำ กระทั่งวูบจนศีรษะจมลงไปในน้ำ โดยสันนิษฐานว่าสาเหตุการเสียชีวิตจะมาจากยาหลายขนานผสมกับฤทธิ์ของแอลกอฮอล์ที่นักร้องดังดื่มเข้าไประหว่างร่วมงานเลี้ยง ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ชันสูตรพลิกศพจึงขอเวลาอีกราว 7-8 วัน เพื่อตรวจสารพิษตกค้างในร่างวิทนีย์ก่อนแถลงสาเหตุการเสียชีวิตที่แท้จริง
อย่างไรก็ตาม ขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจเตรียมเรียกแพทย์ที่จ่ายยาซาแน็กซ์ รวมถึงยานอนหลับและยาคลายเครียดต่าง ๆ ที่พบในห้องพักวิตนีย์มาสอบสวน เพื่อเทียบบันทึกการสั่งจ่ายยากับสารพิษที่ตกค้างอยู่ในร่างวิทนีย์ หากไม่ตรงกันจะขยายผลหาผู้จ่ายยาให้วิทนีย์อย่างผิดกฎหมายมาดำเนินคดีต่อไป
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก
[14 กุมภาพันธ์] ส่งศพ วิทนีย์ ฮูสตัน ถึงบ้านเกิดแล้ว คาดทำพิธีศุกร์นี้
เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก ครอบครัวข่าว 3
สำนักข่าวรอยเตอร์ส รายงานเมื่อวันที่ 14 กุมภาพันธ์ว่า ขณะนี้ศพของ วิทนีย์ ฮูสตัน ถูกส่งถึงบ้านเกิดในนิวเจอร์ซีย์แล้ว คาดมีการจัดพิธีในวันศุกร์นี้
รายงานระบุว่า หลังจากที่แพทย์ได้นำร่างไร้วิญญาณของ วิทนีย์ ฮูสตัน ไปชันสูตร และเก็บตัวอย่างไว้ศึกษาสาเหตุการตายอย่างละเอียดเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ล่าสุด ได้มีการนำศพของนักร้องดังระดับตำนานเคลื่อนย้ายขึ้นเครื่องบินจากลอสแองเจลิส ไปยังบ้านเกิดที่รัฐนิวเจอร์ซีย์ เพื่อให้ครอบครัวได้นำไปประกอบพิธีทางศาสนาต่อไป โดยมีความเป็นไปได้ว่า ทางครอบครัวของวิทนีย์ จะจัดงานศพให้กับเธอในวันศุกร์นี้ (17 กุมภาพันธ์)
ทั้งนี้ แม้ว่านักร้องดังจะเสียชีวิตกว่า 4 วันแล้ว แต่ประเด็นการเสียชีวิตของเธอก็ยังคงเป็นข่าวใหญ่ในหน้าหนังสือพิมพ์หลายฉบับ ขณะที่บรรดาศิลปินดารา และแฟนเพลงของเธอก็ยังคงร่วมไว้อาลัยต่อการจากไปกะทันหันของเธอในครั้งนี้
ขณะที่สำนักข่าวต่างประเทศหลายสำนัก ยังรายงานความคืบการเสียชีวิตอย่างเป็นปริศนาของ วิทนีย์ ฮุสตัน นักร้องสาวคนดังของโลก ที่ได้ทานยาเข้าไปก่อนเสียชีวิต ราว 1 ชั่วโมง และยาบางตัวซื้อตามใบสั่งแพทย์ จากร้านขายยา มิกกี้ ไฟน์ ซึ่งฮูสตันเป็นลูกค้าประจำร้านขายยาแห่งนี้ เช่นเดียวกับไมเคิล แจ็คสัน อดีตราชาเพลงป๊อปของโลก ผู้ล่วงลับด้วยเช่นกัน โดยในข่าวระบุว่า นักร้องสาวผู้ล่วงลับวัย 48 ปี มีขวดยาที่ซื้อตามใบสั่งแพทย์มากมาย เช่น ไอบูโปรเฟน (ยาบรรเทาอาการปวด) ซาแน็กซ์ ยานอนหลับ , ยาคลายเครียด , ยามิดอล ยาบรรเทาปวดประจำเดือน ยาอะม็อกซี่ซิลิน สำหรับฆ่าเชื้อและยาอื่น ๆ อีกจำนวนหนึ่ง ซึ่งส่วนใหญ่นั้นจะเป็นพวกยาคลายเครียดและยานอนหลับหลายขนาน
ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ยืนยันเพิ่มเติมว่า แม้จะพบฮูสตันเสียชีวิตในอ่างอาบน้ำ แต่กรณีดังกล่าว ไม่ใช่เหตุของการตายที่แท้จริง และชี้ว่า ฮูสตันเสียชีวิตก่อนที่จะจมน้ำ ส่วนขณะนี้ ศพของเธอถูกนำกลับไปยังบ้านที่ นวร์ก รัฐนิวเจอร์ซีย์ ด้วยเครื่องบินเจ็ตส่วนตัวเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
ขณะที่เจ้าหน้าที่กำลังสอบสวนหาสาเหตุการเสียชีวิตของ วิทนีย์ ฮุสตัน โดยเจ้าหน้าที่หน่วยชันสูตรศพนครลอสแอนเจลิส ระบุว่า การชันสูตรศพของ วิทนีย์ ฮุสตัน ได้ดำเนินการเสร็จแล้ว แต่จะยังไม่มีการระบุสาเหตุการเสียชีวิต จนกว่าจะได้รับรายงานผลการตรวจหาสารพิษก่อน ซึ่งอาจจะต้องใช้เวลา 6-8 สัปดาห์ แต่ยืนยันว่า เธอถูกพบอยู่ในอ่างอาบน้ำ และเจ้าหน้าที่การแพทย์ ได้นำร่างของเธอออกมาปั๊มหัวใจ แต่ไม่สามารถช่วยชีวิตเธอไว้ได้ นอกจากนี้ ไม่พบร่องรอยฟกช้ำหรือบาดแผลบนตัวเธอ และไม่มีร่องรอยของการทำผิดกฎหมายด้วย
เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก ครอบครัวข่าว 3
สำนักข่าวรอยเตอร์ส รายงานเมื่อวันที่ 14 กุมภาพันธ์ว่า ขณะนี้ศพของ วิทนีย์ ฮูสตัน ถูกส่งถึงบ้านเกิดในนิวเจอร์ซีย์แล้ว คาดมีการจัดพิธีในวันศุกร์นี้
รายงานระบุว่า หลังจากที่แพทย์ได้นำร่างไร้วิญญาณของ วิทนีย์ ฮูสตัน ไปชันสูตร และเก็บตัวอย่างไว้ศึกษาสาเหตุการตายอย่างละเอียดเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ล่าสุด ได้มีการนำศพของนักร้องดังระดับตำนานเคลื่อนย้ายขึ้นเครื่องบินจากลอสแองเจลิส ไปยังบ้านเกิดที่รัฐนิวเจอร์ซีย์ เพื่อให้ครอบครัวได้นำไปประกอบพิธีทางศาสนาต่อไป โดยมีความเป็นไปได้ว่า ทางครอบครัวของวิทนีย์ จะจัดงานศพให้กับเธอในวันศุกร์นี้ (17 กุมภาพันธ์)
ทั้งนี้ แม้ว่านักร้องดังจะเสียชีวิตกว่า 4 วันแล้ว แต่ประเด็นการเสียชีวิตของเธอก็ยังคงเป็นข่าวใหญ่ในหน้าหนังสือพิมพ์หลายฉบับ ขณะที่บรรดาศิลปินดารา และแฟนเพลงของเธอก็ยังคงร่วมไว้อาลัยต่อการจากไปกะทันหันของเธอในครั้งนี้
ขณะที่สำนักข่าวต่างประเทศหลายสำนัก ยังรายงานความคืบการเสียชีวิตอย่างเป็นปริศนาของ วิทนีย์ ฮุสตัน นักร้องสาวคนดังของโลก ที่ได้ทานยาเข้าไปก่อนเสียชีวิต ราว 1 ชั่วโมง และยาบางตัวซื้อตามใบสั่งแพทย์ จากร้านขายยา มิกกี้ ไฟน์ ซึ่งฮูสตันเป็นลูกค้าประจำร้านขายยาแห่งนี้ เช่นเดียวกับไมเคิล แจ็คสัน อดีตราชาเพลงป๊อปของโลก ผู้ล่วงลับด้วยเช่นกัน โดยในข่าวระบุว่า นักร้องสาวผู้ล่วงลับวัย 48 ปี มีขวดยาที่ซื้อตามใบสั่งแพทย์มากมาย เช่น ไอบูโปรเฟน (ยาบรรเทาอาการปวด) ซาแน็กซ์ ยานอนหลับ , ยาคลายเครียด , ยามิดอล ยาบรรเทาปวดประจำเดือน ยาอะม็อกซี่ซิลิน สำหรับฆ่าเชื้อและยาอื่น ๆ อีกจำนวนหนึ่ง ซึ่งส่วนใหญ่นั้นจะเป็นพวกยาคลายเครียดและยานอนหลับหลายขนาน
ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ยืนยันเพิ่มเติมว่า แม้จะพบฮูสตันเสียชีวิตในอ่างอาบน้ำ แต่กรณีดังกล่าว ไม่ใช่เหตุของการตายที่แท้จริง และชี้ว่า ฮูสตันเสียชีวิตก่อนที่จะจมน้ำ ส่วนขณะนี้ ศพของเธอถูกนำกลับไปยังบ้านที่ นวร์ก รัฐนิวเจอร์ซีย์ ด้วยเครื่องบินเจ็ตส่วนตัวเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
ขณะที่เจ้าหน้าที่กำลังสอบสวนหาสาเหตุการเสียชีวิตของ วิทนีย์ ฮุสตัน โดยเจ้าหน้าที่หน่วยชันสูตรศพนครลอสแอนเจลิส ระบุว่า การชันสูตรศพของ วิทนีย์ ฮุสตัน ได้ดำเนินการเสร็จแล้ว แต่จะยังไม่มีการระบุสาเหตุการเสียชีวิต จนกว่าจะได้รับรายงานผลการตรวจหาสารพิษก่อน ซึ่งอาจจะต้องใช้เวลา 6-8 สัปดาห์ แต่ยืนยันว่า เธอถูกพบอยู่ในอ่างอาบน้ำ และเจ้าหน้าที่การแพทย์ ได้นำร่างของเธอออกมาปั๊มหัวใจ แต่ไม่สามารถช่วยชีวิตเธอไว้ได้ นอกจากนี้ ไม่พบร่องรอยฟกช้ำหรือบาดแผลบนตัวเธอ และไม่มีร่องรอยของการทำผิดกฎหมายด้วย
[13 กุมภาพันธ์] คาด วิทนีย์ ฮูสตัน ใช้ยาเกินขนาดร่วมกับดื่มแอลกอฮอล์
Whitney Houston
เมื่อวันที่ 13 กุมภาพันธ์ เว็บไซต์เดลิเมลของอังกฤษ รายงานความคืบหน้าล่าสุดเหตุ วิทนีย์ ฮูสตัน เสียชีวิตว่า ตำรวจเผยการเสียชีวิตของวิทนีย์ น่าจะมาจากการดื่มแอลกอฮอล์พร้อมกับทานยาคลายเครียดเกินขนาด ก่อนจะจมน้ำในอ่างน้ำเสียชีวิต ส่วนทางด้านลูกสาวนักร้องดังทำใจไม่ได้ ดื่มแอลกอฮอล์อย่างหนักและถูกหามส่งโรงพยาบาลถึง 2 ครั้งหลังการเสียชีวิตของแม่ ขณะที่ บ็อบบี่ บราวน์ อดีตสามีถึงกับร่ำไห้ไม่หยุดกลางงานคอนเสิร์ต
รายงานระบุว่า จากการเสียชีวิตปริศนาคาห้องพักของ วิทนีย์ ฮูสตัน เมื่อวันที่ 11 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจคาดว่า น่าจะมาจากการที่นักร้องดังทานยาคลายเครียด Xanax เกินขนาด ร่วมกับแอลกอฮอล์ ก่อนลงไปนอนแช่ในอ่างอาบน้ำ ซึ่งยาตัวนี้อาจทำปฏิกิริยาร่วมกับแอลกอฮอล์ให้มีฤทธิ์กดประสาทอย่างหนัก และทำให้นักร้องดังง่วงนอนขณะอาบน้ำ และเสียชีวิตโดยไม่รู้ตัวในที่สุด ขณะที่ตำรวจไม่พบสารเสพติดในห้องพักแต่อย่างใด
จากการสอบถามไปยังเพื่อนหลาย ๆ คนของวิทนีย์ ฮูสตัน ได้ความว่า วิทนีย์ ฮูสตัน เคยทานยา Xanax บ่อยครั้ง ก่อนที่จะขึ้นคอนเสิร์ตใหญ่ ๆ เพื่อลดความเครียดและเธออ้างว่ามันทำให้เธอแสดงคอนเสิร์ตได้ดีขึ้น ดังนั้น จึงมีความเป็นไปได้มากที่สุดที่การทานยาชนิดนี้เกินขนาด บวกกับการดื่มแอลกอฮอล์อย่างหนักจากงานปาร์ตี้ในคืนนั้น จะทำให้เธอง่วงนอนและหมดสติ จนจมน้ำไม่รู้ตัวอย่างที่เป็น
อย่างไรก็ดี การชันสูตรศพอย่างละเอียดจะมีขึ้นในวันนี้ (13 ก.พ.) ท่ามกลางการรอคอยของคนทั่วโลกที่กำลังรอให้ปริศนาการเสียชีวิตของนักร้องดังคลี่คลาย ซึ่งคาดว่าแพทย์ผู้ชันสูตรจะเปิดเผยสาเหตุการเสียชีวิตที่แท้จริงออกมาภายใน 6-8 สัปดาห์ข้างหน้านี้
ทั้งนี้ การเสียชีวิตของ วิทนีย์ ฮูสตัน ได้นำมาซึ่งความเศร้าโศกเสียใจของครอบครัว เพื่อนร่วมวงการและแฟนเพลงทั่วโลก โดยเฉพาะกับ บ็อบบี้ คริสติน่า ลูกสาววัย 18 ปีของนักร้องดัง ดูจะเป็นผู้ที่เสียใจมากที่สุดจากการจากไปของผู้เป็นแม่ โดยจากรายงานระบุว่า นับตังแต่คริสติน่ารู้ข่าวการเสียชีวิตของแม่เมื่อวานนี้ เธอก็ร้องไห้ไม่หยุด และดื่มแอลกอฮอล์อย่างต่อเนื่องเพราะทำใจไม่ได้กับการจากไปอย่างกะทันหัน จนถูกหามส่งโรงพยาบาลถึง 2 ครั้งจากภาวะเครียดอย่างหนัก โดยครั้งแรก คือในช่วงที่เพิ่งทราบข่าวการจากไปของแม่ใหม่ ๆ และครั้งที่สอง คือช่วงสายของวันรุ่งขึ้น (12 กุมภาพันธ์)
ส่วนทางด้าน บ็อบบี่ บราวน์ นักร้องผิวสีอดีตสามีวัย 43 ปีของ วิทนีย์ ฮูสตัน และเป็นพ่อของ บ็อบบี้ คริสติน่า นั้น ก็เสียใจไม่แพ้กัน โดยมีรายงานว่า นักร้องหนุ่มทราบข่าวการเสียชีวิตของวิทนีย์ในช่วง 1 ชั่วโมงก่อนขึ้นคอนเสิร์ต และหลังจากทราบข่าวแล้ว ก็มีท่าทีเศร้ามาก จนกระทั่งเมื่อขึ้นแสดงคอนเสิร์ต บ็อบบี้ บราวน์ ก็เก็บน้ำตาไม่ไหว น้ำตาไหลกลางคอนเสิร์ต และได้ตะโกนออกมาก่อนจบคอนเสิร์ตว่า "ผมรักคุณ วิทนีย์" พร้อมกับส่งจูบขึ้นบนฟ้าด้วย และหลังจากนั้น บ็อบบี้ บราวน์ ก็ได้ออกมาเปิดเผยต่อว่า "ผมเสียใจมากกับการจากไปของวิทนีย์อดีตภรรยาของผม ตอนนี้ ผมขอความเป็นส่วนตัวกับครอบครัวผมและครอบครัวเธอด้วย โดยเฉพาะบ็อบบี้ คริสติน่า ลูกสาวของผม และผมขอขอบคุณอย่างสุดซึ้งสำหรับการแสดงความเสียใจและกำลังของทุก ๆ คนที่จะทำให้ผมผ่านช่วงเวลาอันแสนยากลำบากนี้ไปได้"
ทั้งนี้ บ็อบบี้ บราวน์ ได้พบรักกับ วิทนีย์ ฮูสตัน ในงานโซลเทรนมิวสิคอวอร์ดเมื่อปี 1989 และแต่งงานกันเมื่อปี 1992 ก่อนจะหย่าขาดจากกันในปี 2007 โดยทั้งคู่มีลูกสาวด้วยกัน 1 คน คือ บ็อบบี้ คริสติน่า
ส่วนยา Xanax ที่คาดว่าน่าจะเป็นสาเหตุของการเสียชีวิตของนักร้องดังนั้น เป็นยาที่ออกฤทธิ์กล่อมประสาทส่วนกลาง ใช้สำหรับรักษาผู้ป่วยที่มีอาการวิตกกังวล และเครียด ซึ่งไม่ใช่ยาที่ผิดกฎหมาย แต่มีขายตามร้านขายยาทั่วไปที่ได้รับใบอนุญาตประกอบการแล้ว และต้องมีใบสั่งยาจากแพทย์ด้วย หากใช้ติดต่อกันอาจทำให้เกิดอันตรายต่อทั้งร่างกายและจิตใจ
Whitney Houston
เปิดประวัติ วิทนีย์ ฮูสตัน
หลังจากข่าวการเสียชีวิตของนักร้องดัง วิทนีย์ ฮูสตัน ถูกเปิดเผยขึ้นและได้รับการเผยแพร่ต่อไปอย่างรวดเร็วเมื่อวันที่ 12 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ผู้คนทั่วโลก ไม่เฉพาะแค่แฟนเพลงของเธอเท่านั้น ต่างรู้สึกใจหายกับการจากไปอย่างกะทันหันของนักร้องดังในครั้งนี้ ขณะที่หลายคนถึงกับร่ำไห้ออกมาเลยทีเดียว และเพื่อเป็นการไว้อาลัยต่อการจากไปของวิทนีย์ ฮูสตัน วันนี้กระปุกดอทคอมขอเปิดประวัติ ย้อนรำลึกถึงชีวิตบนเส้นทางบันเทิงของเธอนับตั้งแต่เข้าวงการจนถึงวันสุดท้ายของชีวิต
วิทนีย์ ฮูสตัน เกิดเมื่อวันที่ 9 สิงหาคม 1963 ในครอบครัวของนักร้องเพลงโซลในรัฐนิวเจอร์ซีย์ สหรัฐอเมริกา ชีวิตของเธอเรียกว่าคุ้นเคยอยู่กับการร้องเพลงตั้งแต่เด็ก เพราะทั้งคุณแม่ของเธอ "นางซิซซี่ ฮูสตัน" และญาติ อาทิ ดีออน วอร์วิค และ ดีดี้ วอร์วิค ก็ล้วนแล้วแต่เป็นนักร้องด้วยกันทั้งสิ้น และยังรวมไปถึง อะเรธ่า แฟรงกลิน ซึ่งเป็นหนึ่งในนักร้องหญิงระดับตำนานคนหนึ่ง ที่เคยได้รับรางวัลทั้งรางวัลเอ็มมี่ อวอร์ด รางวัล แรมมี่ อวอร์ด และรางวัล บิลบอร์ด มิวสิค อวอร์ด ก็ไม่ใช่คนไกลตัวที่ไหน เป็นแม่บุญธรรมของวิทนีย์ ฮูสตัน นั่นเอง
ในสมัยที่ยังเป็นเด็ก วิทนีย์ ฮูสตัน เริ่มร้องเพลงครั้งแรกในโบสถ์ และเมื่อเริ่มเข้าสู่วัยรุ่น เธอก็เป็นนักร้องแบ็คอัพให้กับ ชาก้า คาน (Chaka Khan) เจอร์เมน แจ็คสัน (Jermaine Jackson) รวมไปถึงนักร้องคนอื่น ๆ อีก ซึ่งเป็นช่วงเดียวกันกับที่ ไคลฟ์ เดวิส (Clive Davis) เจ้าพ่อของวงการเพลง ได้ยินเสียงของเธอเป็นครั้งแรก จนเขาถึงกับกล่าวว่า ครั้งแรกที่เขาได้ยินเสียงของเธอตอนที่เธอร้องเพลงในคลับ เขารู้สึกตะลึงงันไปเลย และจากการพบกันในครั้งนั้น เขาก็ได้ทาบทามให้วิทนีย์ ฮูสตัน เซ็นสัญญาเป็นนักร้องในสังกัดในที่สุด
หลังจากตกลงเซ็นสัญญาแล้ว วิทนีย์ ฮูสตัน ได้ออกอัลบั้มแรกในปี 1985 ในชื่ออัลบั้ม "Whitney Houston" ซึ่งมียอดขายหลายล้านแผ่นและมีเพลงฮิตอยู่มากมาย อาทิเพลง "Saving All My Love for You" ซึ่งทำให้เธอได้รับรางวัลแกรมมี่ อวอร์ด เป็นครั้งแรก ในสาขานักร้องป็อปหญิงยอดเยี่ยม ตามมาด้วยเพลงฮิตมากมายอย่าง "How Will I Know," "You Give Good Love" และ "The Greatest Love of All" และในปี 1987 อัลบั้มที่สองอย่าง "Whitney" ก็วางแผง และมีเพลงฮิตมากมาย อาทิ "Where Do Broken Hearts Go" และ "I Wanna Dance With Somebody." และเพียง 2 ปีหลังจากนั้น ในปี 1987 เธอก็ได้คลอดอัลบั้มที่สองออกมาชื่ออัลบั้มว่า "Whitney" และแน่นอนว่า เธอยังคงได้รับเสียงตอบรับอย่างล้นหลาม
ทั้งนี้ การที่เธอไม่เดินตามรอยการร้องเพลงโซลแบบที่ แฟลงกิน แม่บุญธรรมของเธอทำ ส่งผลให้เกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักในหมู่คนที่คิดว่า เธอได้หลงลืมความเป็นคนดำเพื่อที่จะร้องเพลงป๊อปมากขึ้น และพยายามเข้าถึงกลุ่มคนฟังเพลงผิวขาว ซึ่งเหตุการณ์การวิพากษ์วิจารณ์ที่ค่อนข้างจะรุนแรงที่สุด เห็นจะเป็นเหตุการณ์ในงานโซลเทรนมิวสิคอวอร์ด ปี 1989 ที่มีคนโห่ร้องถากถางเธอมากมาย แต่ในงานนี้เอง ที่ทำให้เธอได้โคจรมาพบกับ บ็อบบี้ บราวน์ อดีตสมาชิกวง New Edition และนักร้องเพลงโซล ซึ่งกลายมาเป็นแฟนหนุ่มของเธอในเวลาต่อมา และระหว่างนี้เองที่เธอได้ทำเพลงออกมาเป็นอัลบั้มที่ 3 นั่นคือ I\'m Your Baby Tonight
หลังจากคบหากันได้ 3 ปี ในปี 1992 วิทนีย์ ฮูสตัน ก็ได้แต่งงานกับ บ็อบบี้ บราวน์ ซึ่งการแต่งงานของเธอครั้งนี้ ก็ยังคงไม่พ้นถูกวิพากษ์วิจารณ์ว่า การที่วิทนีย์แต่งงานกับบ็อบบี้ ก็เพื่อที่จะลดเเรงเสียดทานของนักวิจารณ์ในเรื่องที่เธอร้องเพลงป็อป ซึ่งดูเหมือนคู่นี้ จะเป็นคู่ที่แปลกอยู่พอสมควร เพราะวิทนีย์ ถูกมองในฐานะของเจ้าหญิงเพลงป็อป ในขณะที่บ็อบบี้ กลับมีภาพลักษณ์แบบแบดบอย จากนั้น ในปี 1993 ทั้งสองก็มีลูกสาวด้วยกัน ชื่อว่า บ็อบบี้ คริสติน่า ขณะที่ในช่วงเวลานั้น บ็อบบี้ถูกตำรวจจับกุมหลายครั้ง ซึ่งมีตั้งแต่คดีเมาแล้วขับ ไปจนถึงการที่ไม่จ่ายค่าเลี้ยงดูลูก
ในปี 1992 วิทนีย์รับงานแสดงในภาพยนตร์เรื่อง The Bodyguard และแม้ว่าจะมีคำวิพากษ์วิจารณ์ทั้งในแง่บวกและแง่ลบ แต่ว่า เควิน คอสเนอร์ นักแสดงฮอลลีวูด ได้ออกมาบอกว่า การแสดงของเธอประสบความสำเร็จในระดับนานาชาติ นอกจากนี้ เพลงประกอบภาพยนตร์เรื่องดังกล่าว อย่างเพลง "I Will Always Love You" ก็กลายมาเป็นเพลงฮิตอมตะติดอยู่ในชาร์ตนานหลายสัปดาห์ และทำให้เธอได้รับรางวัลแกรมมี่อวอร์ด สาขาเพลงแห่งปี และสาขานักร้องเพลงป็อบหญิงยอดเยี่ยม และในปี 1995-1996 วิทนีย์กลับมารับงานแสดงอีกครั้งหนึ่งกับเรื่อง "Waiting to Exhale" และ "The Preacher\'s Wife." และภาพยนตร์ทั้งสองเรื่อง ก็ทำให้เธอได้ออกอัลบั้ม ที่มีชื่อว่า "My Love Is Your Love" ในปี 1998 เธอได้รับรางวัลแกรมมี่ อวอร์ด ในสาขา นักร้องหญิงอาร์เเอนด์บียอดเยี่ยมจากเพลง "It\'s Not Right But It\'s Okay." และหลังจากนั้นเธอก็ได้ทำงานเพลงออกมาอีก 2 อั้มบั้มในเวลาไล่เลี่ยกัน คือ Just Whitney ในปี 2002 และ One Wish: The Holiday Album ในปี 2003 ก่อนจะเว้นช่วงนานถึง 6 ปี ในการทำงานเพลงอัลบั้มสุดท้ายออกมา นั่นคือ I Look To You ในปี 2009 ซึ่งเป็นอัลบั้มที่ประสบความสำเร็จ มีเพลงติดชาร์ตมากมาย รวมถึงได้เเผ่นเสียงทองคำ
อย่างไรก็ตาม แม้ว่าวิทนีย์จะประสบความสำเร็จด้านอาชีพ แต่ชีวิตส่วนตัวของเธอนั้นดูเหมือนจะไม่ค่อยโสภาเท่าไรนัก ทั้งเรื่องความรักและยาเสพติด โดยหลังจากที่เธอแต่งงานกับ บ็อบบี่ บราวน์ แล้ว ก็มีคดีบ็อบบี้ บราวน์ ทำร้ายร่างกายเธอเมื่อปี 1993 และในปี 2007 ชีวิตรักของเธอเป็นอันต้องสิ้นสุดลง เมื่อเธอตัดสินใจแยกทางกับบ็อบบี้ บราวน์ ในที่สุด
ส่วนเรื่องยาเสพติดนั้น เธอให้สัมภาษณ์ในรายการของ โอปรา วินฟรีย์ เมื่อปี 2010 ว่า ในระหว่างที่มีการฉายภาพยนตร์เรื่อง The Preacher\'s Wife เธอติดยาเสพติดงอมแงม โดยหลังจากที่ทำงานเสร็จ ตลอดระยะเวลา 1-2 ปีนั้น เธอใช้ยาทุกวัน แต่เธอเองก็ไม่ได้รู้สึกดีกับช่วงเวลานั้น เหมือนกับเธอกำลังสูญเสียความเป็นตัวของตัวเอง และจากการติดยาเสพติดนี้เองที่ทำให้เธอต้องเข้ารับการบำบัดผู้ติดยาเสพติดถึง 2 ครั้ง ก่อนที่เธอจะสามารถเลิกยาเสพติดได้เป็นผลสำเร็จ
ทั้งนี้ แม้ว่าวิทนีย์จะมีข่าวฉาวเรื่องยาเสพติดอยู่หลายครั้ง แต่เธอก็ยังคงเป็นศิลปินในดวงใจของใครหลาย ๆ คน และด้วยน้ำเสียงที่ไพเราะทรงพลังและเป็นเอกลักษณ์ ทำให้เธอได้รับรางวัลต่าง ๆ มากมาย จนกินเนสส์บุ๊คยกย่องให้เป็นนักร้องหญิงที่ได้รับรางวัลมากที่สุดตลอดช่วงชีวิตการเป็นน้กร้อง โดยรางวัลที่สำคัญ ๆ ได้แก่ รางวัลจากเอมมี่อวอร์ด 2 รางวัน รางวัลจากแกรมมี่อวอร์ด 6 รางวัล รางวัลงานเพลงจากบิลบอร์ด 30 รางวัล รางวัลงานเพลงจากอเมริกันมิวสิคอวอร์ด 22 รางวัล เป็นต้น
แต่ใครเลยจะไปคาดคิดว่า จู่ ๆ วิทนีย์ ฮูสตัน จะมาจบชีวิตลงอย่างกะทันหัน ขณะที่งานเพลงของเธอยังคงถูกเปิดฟังนับครั้งไม่ถ้วน โดยในวันที่ 11 กุมภาพันธ์ท่ผ่านมา วิทนีย์ถูกพบเสียชีวิตในโรงแรมเบเวอร์ลีฮิลตัน แคลิฟอร์เนีย ขณะกำลังอยู่ระหว่างพักผ่อนเพื่อเตรียมตัวร่วมงานแกรมมี่อวอร์ดในวันรุ่งขึ้น นับเป็นข่าวที่ช็อควงการดนตรีเป็นอย่างมาก จนงานแกรมมี่อวอร์ดนั้นถูกเปลี่ยนเป็นงานไว้อาลัยวิทนีย์ ฮูสตัน เลยทีเดียว
รายงานระบุว่า จากการเสียชีวิตปริศนาคาห้องพักของ วิทนีย์ ฮูสตัน เมื่อวันที่ 11 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจคาดว่า น่าจะมาจากการที่นักร้องดังทานยาคลายเครียด Xanax เกินขนาด ร่วมกับแอลกอฮอล์ ก่อนลงไปนอนแช่ในอ่างอาบน้ำ ซึ่งยาตัวนี้อาจทำปฏิกิริยาร่วมกับแอลกอฮอล์ให้มีฤทธิ์กดประสาทอย่างหนัก และทำให้นักร้องดังง่วงนอนขณะอาบน้ำ และเสียชีวิตโดยไม่รู้ตัวในที่สุด ขณะที่ตำรวจไม่พบสารเสพติดในห้องพักแต่อย่างใด
จากการสอบถามไปยังเพื่อนหลาย ๆ คนของวิทนีย์ ฮูสตัน ได้ความว่า วิทนีย์ ฮูสตัน เคยทานยา Xanax บ่อยครั้ง ก่อนที่จะขึ้นคอนเสิร์ตใหญ่ ๆ เพื่อลดความเครียดและเธออ้างว่ามันทำให้เธอแสดงคอนเสิร์ตได้ดีขึ้น ดังนั้น จึงมีความเป็นไปได้มากที่สุดที่การทานยาชนิดนี้เกินขนาด บวกกับการดื่มแอลกอฮอล์อย่างหนักจากงานปาร์ตี้ในคืนนั้น จะทำให้เธอง่วงนอนและหมดสติ จนจมน้ำไม่รู้ตัวอย่างที่เป็น
อย่างไรก็ดี การชันสูตรศพอย่างละเอียดจะมีขึ้นในวันนี้ (13 ก.พ.) ท่ามกลางการรอคอยของคนทั่วโลกที่กำลังรอให้ปริศนาการเสียชีวิตของนักร้องดังคลี่คลาย ซึ่งคาดว่าแพทย์ผู้ชันสูตรจะเปิดเผยสาเหตุการเสียชีวิตที่แท้จริงออกมาภายใน 6-8 สัปดาห์ข้างหน้านี้
ทั้งนี้ การเสียชีวิตของ วิทนีย์ ฮูสตัน ได้นำมาซึ่งความเศร้าโศกเสียใจของครอบครัว เพื่อนร่วมวงการและแฟนเพลงทั่วโลก โดยเฉพาะกับ บ็อบบี้ คริสติน่า ลูกสาววัย 18 ปีของนักร้องดัง ดูจะเป็นผู้ที่เสียใจมากที่สุดจากการจากไปของผู้เป็นแม่ โดยจากรายงานระบุว่า นับตังแต่คริสติน่ารู้ข่าวการเสียชีวิตของแม่เมื่อวานนี้ เธอก็ร้องไห้ไม่หยุด และดื่มแอลกอฮอล์อย่างต่อเนื่องเพราะทำใจไม่ได้กับการจากไปอย่างกะทันหัน จนถูกหามส่งโรงพยาบาลถึง 2 ครั้งจากภาวะเครียดอย่างหนัก โดยครั้งแรก คือในช่วงที่เพิ่งทราบข่าวการจากไปของแม่ใหม่ ๆ และครั้งที่สอง คือช่วงสายของวันรุ่งขึ้น (12 กุมภาพันธ์)
ส่วนทางด้าน บ็อบบี่ บราวน์ นักร้องผิวสีอดีตสามีวัย 43 ปีของ วิทนีย์ ฮูสตัน และเป็นพ่อของ บ็อบบี้ คริสติน่า นั้น ก็เสียใจไม่แพ้กัน โดยมีรายงานว่า นักร้องหนุ่มทราบข่าวการเสียชีวิตของวิทนีย์ในช่วง 1 ชั่วโมงก่อนขึ้นคอนเสิร์ต และหลังจากทราบข่าวแล้ว ก็มีท่าทีเศร้ามาก จนกระทั่งเมื่อขึ้นแสดงคอนเสิร์ต บ็อบบี้ บราวน์ ก็เก็บน้ำตาไม่ไหว น้ำตาไหลกลางคอนเสิร์ต และได้ตะโกนออกมาก่อนจบคอนเสิร์ตว่า "ผมรักคุณ วิทนีย์" พร้อมกับส่งจูบขึ้นบนฟ้าด้วย และหลังจากนั้น บ็อบบี้ บราวน์ ก็ได้ออกมาเปิดเผยต่อว่า "ผมเสียใจมากกับการจากไปของวิทนีย์อดีตภรรยาของผม ตอนนี้ ผมขอความเป็นส่วนตัวกับครอบครัวผมและครอบครัวเธอด้วย โดยเฉพาะบ็อบบี้ คริสติน่า ลูกสาวของผม และผมขอขอบคุณอย่างสุดซึ้งสำหรับการแสดงความเสียใจและกำลังของทุก ๆ คนที่จะทำให้ผมผ่านช่วงเวลาอันแสนยากลำบากนี้ไปได้"
ทั้งนี้ บ็อบบี้ บราวน์ ได้พบรักกับ วิทนีย์ ฮูสตัน ในงานโซลเทรนมิวสิคอวอร์ดเมื่อปี 1989 และแต่งงานกันเมื่อปี 1992 ก่อนจะหย่าขาดจากกันในปี 2007 โดยทั้งคู่มีลูกสาวด้วยกัน 1 คน คือ บ็อบบี้ คริสติน่า
ส่วนยา Xanax ที่คาดว่าน่าจะเป็นสาเหตุของการเสียชีวิตของนักร้องดังนั้น เป็นยาที่ออกฤทธิ์กล่อมประสาทส่วนกลาง ใช้สำหรับรักษาผู้ป่วยที่มีอาการวิตกกังวล และเครียด ซึ่งไม่ใช่ยาที่ผิดกฎหมาย แต่มีขายตามร้านขายยาทั่วไปที่ได้รับใบอนุญาตประกอบการแล้ว และต้องมีใบสั่งยาจากแพทย์ด้วย หากใช้ติดต่อกันอาจทำให้เกิดอันตรายต่อทั้งร่างกายและจิตใจ
Whitney Houston
เปิดประวัติ วิทนีย์ ฮูสตัน
หลังจากข่าวการเสียชีวิตของนักร้องดัง วิทนีย์ ฮูสตัน ถูกเปิดเผยขึ้นและได้รับการเผยแพร่ต่อไปอย่างรวดเร็วเมื่อวันที่ 12 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ผู้คนทั่วโลก ไม่เฉพาะแค่แฟนเพลงของเธอเท่านั้น ต่างรู้สึกใจหายกับการจากไปอย่างกะทันหันของนักร้องดังในครั้งนี้ ขณะที่หลายคนถึงกับร่ำไห้ออกมาเลยทีเดียว และเพื่อเป็นการไว้อาลัยต่อการจากไปของวิทนีย์ ฮูสตัน วันนี้กระปุกดอทคอมขอเปิดประวัติ ย้อนรำลึกถึงชีวิตบนเส้นทางบันเทิงของเธอนับตั้งแต่เข้าวงการจนถึงวันสุดท้ายของชีวิต
วิทนีย์ ฮูสตัน เกิดเมื่อวันที่ 9 สิงหาคม 1963 ในครอบครัวของนักร้องเพลงโซลในรัฐนิวเจอร์ซีย์ สหรัฐอเมริกา ชีวิตของเธอเรียกว่าคุ้นเคยอยู่กับการร้องเพลงตั้งแต่เด็ก เพราะทั้งคุณแม่ของเธอ "นางซิซซี่ ฮูสตัน" และญาติ อาทิ ดีออน วอร์วิค และ ดีดี้ วอร์วิค ก็ล้วนแล้วแต่เป็นนักร้องด้วยกันทั้งสิ้น และยังรวมไปถึง อะเรธ่า แฟรงกลิน ซึ่งเป็นหนึ่งในนักร้องหญิงระดับตำนานคนหนึ่ง ที่เคยได้รับรางวัลทั้งรางวัลเอ็มมี่ อวอร์ด รางวัล แรมมี่ อวอร์ด และรางวัล บิลบอร์ด มิวสิค อวอร์ด ก็ไม่ใช่คนไกลตัวที่ไหน เป็นแม่บุญธรรมของวิทนีย์ ฮูสตัน นั่นเอง
ในสมัยที่ยังเป็นเด็ก วิทนีย์ ฮูสตัน เริ่มร้องเพลงครั้งแรกในโบสถ์ และเมื่อเริ่มเข้าสู่วัยรุ่น เธอก็เป็นนักร้องแบ็คอัพให้กับ ชาก้า คาน (Chaka Khan) เจอร์เมน แจ็คสัน (Jermaine Jackson) รวมไปถึงนักร้องคนอื่น ๆ อีก ซึ่งเป็นช่วงเดียวกันกับที่ ไคลฟ์ เดวิส (Clive Davis) เจ้าพ่อของวงการเพลง ได้ยินเสียงของเธอเป็นครั้งแรก จนเขาถึงกับกล่าวว่า ครั้งแรกที่เขาได้ยินเสียงของเธอตอนที่เธอร้องเพลงในคลับ เขารู้สึกตะลึงงันไปเลย และจากการพบกันในครั้งนั้น เขาก็ได้ทาบทามให้วิทนีย์ ฮูสตัน เซ็นสัญญาเป็นนักร้องในสังกัดในที่สุด
หลังจากตกลงเซ็นสัญญาแล้ว วิทนีย์ ฮูสตัน ได้ออกอัลบั้มแรกในปี 1985 ในชื่ออัลบั้ม "Whitney Houston" ซึ่งมียอดขายหลายล้านแผ่นและมีเพลงฮิตอยู่มากมาย อาทิเพลง "Saving All My Love for You" ซึ่งทำให้เธอได้รับรางวัลแกรมมี่ อวอร์ด เป็นครั้งแรก ในสาขานักร้องป็อปหญิงยอดเยี่ยม ตามมาด้วยเพลงฮิตมากมายอย่าง "How Will I Know," "You Give Good Love" และ "The Greatest Love of All" และในปี 1987 อัลบั้มที่สองอย่าง "Whitney" ก็วางแผง และมีเพลงฮิตมากมาย อาทิ "Where Do Broken Hearts Go" และ "I Wanna Dance With Somebody." และเพียง 2 ปีหลังจากนั้น ในปี 1987 เธอก็ได้คลอดอัลบั้มที่สองออกมาชื่ออัลบั้มว่า "Whitney" และแน่นอนว่า เธอยังคงได้รับเสียงตอบรับอย่างล้นหลาม
ทั้งนี้ การที่เธอไม่เดินตามรอยการร้องเพลงโซลแบบที่ แฟลงกิน แม่บุญธรรมของเธอทำ ส่งผลให้เกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักในหมู่คนที่คิดว่า เธอได้หลงลืมความเป็นคนดำเพื่อที่จะร้องเพลงป๊อปมากขึ้น และพยายามเข้าถึงกลุ่มคนฟังเพลงผิวขาว ซึ่งเหตุการณ์การวิพากษ์วิจารณ์ที่ค่อนข้างจะรุนแรงที่สุด เห็นจะเป็นเหตุการณ์ในงานโซลเทรนมิวสิคอวอร์ด ปี 1989 ที่มีคนโห่ร้องถากถางเธอมากมาย แต่ในงานนี้เอง ที่ทำให้เธอได้โคจรมาพบกับ บ็อบบี้ บราวน์ อดีตสมาชิกวง New Edition และนักร้องเพลงโซล ซึ่งกลายมาเป็นแฟนหนุ่มของเธอในเวลาต่อมา และระหว่างนี้เองที่เธอได้ทำเพลงออกมาเป็นอัลบั้มที่ 3 นั่นคือ I\'m Your Baby Tonight
หลังจากคบหากันได้ 3 ปี ในปี 1992 วิทนีย์ ฮูสตัน ก็ได้แต่งงานกับ บ็อบบี้ บราวน์ ซึ่งการแต่งงานของเธอครั้งนี้ ก็ยังคงไม่พ้นถูกวิพากษ์วิจารณ์ว่า การที่วิทนีย์แต่งงานกับบ็อบบี้ ก็เพื่อที่จะลดเเรงเสียดทานของนักวิจารณ์ในเรื่องที่เธอร้องเพลงป็อป ซึ่งดูเหมือนคู่นี้ จะเป็นคู่ที่แปลกอยู่พอสมควร เพราะวิทนีย์ ถูกมองในฐานะของเจ้าหญิงเพลงป็อป ในขณะที่บ็อบบี้ กลับมีภาพลักษณ์แบบแบดบอย จากนั้น ในปี 1993 ทั้งสองก็มีลูกสาวด้วยกัน ชื่อว่า บ็อบบี้ คริสติน่า ขณะที่ในช่วงเวลานั้น บ็อบบี้ถูกตำรวจจับกุมหลายครั้ง ซึ่งมีตั้งแต่คดีเมาแล้วขับ ไปจนถึงการที่ไม่จ่ายค่าเลี้ยงดูลูก
ในปี 1992 วิทนีย์รับงานแสดงในภาพยนตร์เรื่อง The Bodyguard และแม้ว่าจะมีคำวิพากษ์วิจารณ์ทั้งในแง่บวกและแง่ลบ แต่ว่า เควิน คอสเนอร์ นักแสดงฮอลลีวูด ได้ออกมาบอกว่า การแสดงของเธอประสบความสำเร็จในระดับนานาชาติ นอกจากนี้ เพลงประกอบภาพยนตร์เรื่องดังกล่าว อย่างเพลง "I Will Always Love You" ก็กลายมาเป็นเพลงฮิตอมตะติดอยู่ในชาร์ตนานหลายสัปดาห์ และทำให้เธอได้รับรางวัลแกรมมี่อวอร์ด สาขาเพลงแห่งปี และสาขานักร้องเพลงป็อบหญิงยอดเยี่ยม และในปี 1995-1996 วิทนีย์กลับมารับงานแสดงอีกครั้งหนึ่งกับเรื่อง "Waiting to Exhale" และ "The Preacher\'s Wife." และภาพยนตร์ทั้งสองเรื่อง ก็ทำให้เธอได้ออกอัลบั้ม ที่มีชื่อว่า "My Love Is Your Love" ในปี 1998 เธอได้รับรางวัลแกรมมี่ อวอร์ด ในสาขา นักร้องหญิงอาร์เเอนด์บียอดเยี่ยมจากเพลง "It\'s Not Right But It\'s Okay." และหลังจากนั้นเธอก็ได้ทำงานเพลงออกมาอีก 2 อั้มบั้มในเวลาไล่เลี่ยกัน คือ Just Whitney ในปี 2002 และ One Wish: The Holiday Album ในปี 2003 ก่อนจะเว้นช่วงนานถึง 6 ปี ในการทำงานเพลงอัลบั้มสุดท้ายออกมา นั่นคือ I Look To You ในปี 2009 ซึ่งเป็นอัลบั้มที่ประสบความสำเร็จ มีเพลงติดชาร์ตมากมาย รวมถึงได้เเผ่นเสียงทองคำ
อย่างไรก็ตาม แม้ว่าวิทนีย์จะประสบความสำเร็จด้านอาชีพ แต่ชีวิตส่วนตัวของเธอนั้นดูเหมือนจะไม่ค่อยโสภาเท่าไรนัก ทั้งเรื่องความรักและยาเสพติด โดยหลังจากที่เธอแต่งงานกับ บ็อบบี่ บราวน์ แล้ว ก็มีคดีบ็อบบี้ บราวน์ ทำร้ายร่างกายเธอเมื่อปี 1993 และในปี 2007 ชีวิตรักของเธอเป็นอันต้องสิ้นสุดลง เมื่อเธอตัดสินใจแยกทางกับบ็อบบี้ บราวน์ ในที่สุด
ส่วนเรื่องยาเสพติดนั้น เธอให้สัมภาษณ์ในรายการของ โอปรา วินฟรีย์ เมื่อปี 2010 ว่า ในระหว่างที่มีการฉายภาพยนตร์เรื่อง The Preacher\'s Wife เธอติดยาเสพติดงอมแงม โดยหลังจากที่ทำงานเสร็จ ตลอดระยะเวลา 1-2 ปีนั้น เธอใช้ยาทุกวัน แต่เธอเองก็ไม่ได้รู้สึกดีกับช่วงเวลานั้น เหมือนกับเธอกำลังสูญเสียความเป็นตัวของตัวเอง และจากการติดยาเสพติดนี้เองที่ทำให้เธอต้องเข้ารับการบำบัดผู้ติดยาเสพติดถึง 2 ครั้ง ก่อนที่เธอจะสามารถเลิกยาเสพติดได้เป็นผลสำเร็จ
ทั้งนี้ แม้ว่าวิทนีย์จะมีข่าวฉาวเรื่องยาเสพติดอยู่หลายครั้ง แต่เธอก็ยังคงเป็นศิลปินในดวงใจของใครหลาย ๆ คน และด้วยน้ำเสียงที่ไพเราะทรงพลังและเป็นเอกลักษณ์ ทำให้เธอได้รับรางวัลต่าง ๆ มากมาย จนกินเนสส์บุ๊คยกย่องให้เป็นนักร้องหญิงที่ได้รับรางวัลมากที่สุดตลอดช่วงชีวิตการเป็นน้กร้อง โดยรางวัลที่สำคัญ ๆ ได้แก่ รางวัลจากเอมมี่อวอร์ด 2 รางวัน รางวัลจากแกรมมี่อวอร์ด 6 รางวัล รางวัลงานเพลงจากบิลบอร์ด 30 รางวัล รางวัลงานเพลงจากอเมริกันมิวสิคอวอร์ด 22 รางวัล เป็นต้น
แต่ใครเลยจะไปคาดคิดว่า จู่ ๆ วิทนีย์ ฮูสตัน จะมาจบชีวิตลงอย่างกะทันหัน ขณะที่งานเพลงของเธอยังคงถูกเปิดฟังนับครั้งไม่ถ้วน โดยในวันที่ 11 กุมภาพันธ์ท่ผ่านมา วิทนีย์ถูกพบเสียชีวิตในโรงแรมเบเวอร์ลีฮิลตัน แคลิฟอร์เนีย ขณะกำลังอยู่ระหว่างพักผ่อนเพื่อเตรียมตัวร่วมงานแกรมมี่อวอร์ดในวันรุ่งขึ้น นับเป็นข่าวที่ช็อควงการดนตรีเป็นอย่างมาก จนงานแกรมมี่อวอร์ดนั้นถูกเปลี่ยนเป็นงานไว้อาลัยวิทนีย์ ฮูสตัน เลยทีเดียว
[12 กุมภาพันธ์] ช็อก! วิทนีย์ ฮูสตัน นักร้องดังระดับโลกเสียชีวิตแล้ว
Whitney Houston
Whitney Houston
เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก whitneyhouston.com, เฟซบุ๊ก WhitneyHouston
วิทนีย์ ฮูสตัน เสียชีวิตด้วยวัย 48 ปี โดยไม่ทราบสาเหตุ ขณะที่นักร้อง - คนดัง ร่วมแสดงความเสียใจกับการจากไปของเธอ
วันนี้ (12 กุมภาพันธ์) สำนักข่าวซีเอ็นเอ็นรายงานว่า นักร้องสาว วิทนีย์ ฮูสตัน (Whitney Houston) เจ้าของเพลง I will always love you ได้เสียชีวิตลงโดยไม่ทราบสาเหตุ ด้วยวัยเพียง 48 ปี เมื่อวันเสาร์ที่ 11 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา (ตามเวลาท้องถิ่น) ซึ่ง เรย์ เจ นักร้องฮิปฮอปชื่อดังชื่อดังของอเมริกา เป็นผู้พบศพ วิทนีย์ ฮูสตัน เป็นคนแรกในห้องพักที่ชั้น 4 ของโรงแรมเบฟเวอรี่ เมื่อเวลา 15.55 น. โดย เจย์ เร ไปเคาะห้องพักของ วิทนีย์ ฮูสตัน หลายครั้ง แต่ไม่มีเสียงตอบกลับ เขาจึงให้เจ้าหน้าที่ของโรงแรมพังประตูเข้าไป แล้วจึงพบศพของ วิทนีย์ ฮูสตัน ในอ่างอาบน้ำ ส่วนสาเหตุการตายนั้น เจ้าหน้าที่ตำรวจยังไม่สามารถระบุได้ และกำลังอยู่ระหว่างการสืบสวน
ทั้งนี้ ตำรวจกล่าวว่า ได้รับแจ้งเรื่องนี้จากทางพนักงานรักษาความปลอดภัยของโรงแรม เมื่อเวลา 15.43 น. ของวันเสาร์ที่ 11 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา (ตามเวลาท้องถิ่น) แต่หน่วยกู้ชีพประจำงานปาร์ตี้ของงานแกรมมี่ อวอร์ด ก็อยู่ที่นั่นเป็นที่เรียบร้อยแล้ว แต่น่าเสียดายที่ไม่สามารถช่วยชีวิตของ วิทนีย์ ฮูสตัน เอาไว้ได้
ด้าน คริสเตน ฟรอสเตอร์ โฆษกส่วนตัวของ วิทนีย์ ฮูสตัน เป็นผู้ยืนยันข่าวการเสียชีวิตของเธอ ขณะที่่ก่อนหน้านี้ วิทนีย์ ฮูสตัน เคยออกมายอมรับผ่านรายการ โอปรา วีนฟรีย์ ว่าตัวเธอเองมีปัญหาการใช้สารเสพติด อย่างเช่นโคเคน กัญชา เเละติดสุราอย่างหนัก
อย่างไรก็ตาม การเสียชีวิตของ วิทนีย์ ฮูสตัน ทำให้นักร้องและผู้ที่อยู่ในวงการฮอลลีวู้ดหลายคน ออกมาเเสดงความเสียใจเป็นอย่างมาก อาทิ นักร้องระดับตำนานอย่าง ควินซี่ โจนส์ ได้ออกมากล่าวว่า เขารู้สึกเหมือนใจสลาย เพราะ วิทนีย์ ฮูสตัน มีทั้งความเป็นเอกลักษณ์ และมีพรสวรรค์อย่างที่หาใครมาเทียบไม่ได้
ส่วนนักร้องอีกคนหนึ่งที่ออกมาแสดงความเสียใจอย่างไม่มีวันกลับของ วิทนีย์ ฮูสตัน คือ มารายห์ แคร์รีย์ ที่ออกมาเปิดเผยผ่านทวิตเตอร์ว่า เธอรู้สึกใจสลายและน้ำตาไหลออกมาต่อการจากไปของเพื่อนของเธอ นักร้องที่หาใครเทียบไม่ได้
ทางด้าน ริฮานน่า นักร้องชื่อดัง ก็เปิดเผยผ่านทวิตเตอร์สั้น ๆ ว่า ไม่มีอะไรจะพูด มีแต่น้ำตาที่ไหลออกมา ส่วนนักร้องสาว เลดี้ กาก้า ก็ได้ทวีตข้อความว่า อยากขอบคุณ วิทนีย์ ฮูสตัน เพราะเมื่อครั้งที่เธอแต่งเพลง "Born this way" นั้น เธอนึกถึงภาพของ วิทนีย์ ฮูสสตัน กำลังร้องเพลงนี้ นอกจากนี้ ยังมีข้อความจาก ริคกี้ มาร์ติน ที่่่่กล่าวแสดงความเสียใจกับการจากไปของ วิทนีย์ ฮูสตัน อีกด้วย
สำหรับการจัดงานมอบรางวัลของวงการเพลงที่ยิ่งใหญ่ที่สุดอย่างงานแกรมมี่ อวอร์ด ที่จะมีการมอบรางวัลในวันที่่่ 12 กุมภาพันธ์ (ตามเวลาท้องถิ่น) นั้น มีการออกมายืนยันจากผู้จัดงานแล้วว่า งานประกาศรางวัลจะดำเนินต่อไป แต่จะมีการจัดช่วงพิเศษเพื่อเป็นการไว้อาลัยให้กับ วิทนีย์ ฮูสตัน ซึ่งก่อนหน้านี้ วิทนีย์ ฮูสตัน เพิ่งซ้อมการแสดงในงานเมื่อวันพฤหัสบดี ที่ 9 กุมภาพันธ์ที่่ผ่านมา แต่ทางผู้ฝึกสอนนักร้องไม่อนุญาตให้พูดเกี่ยวกับการซ้อมของเธอ ขณะที่่มีกระแสข่าวออกมาว่าในการซ้อมคอนเสริตนั้น วิทนีย์ ฮูสตัน แต่งตัวไม่เรียบร้อย ผมเผ้ากระเซอะกระเซิง ตัวเธอเองก็มีเหงื่อออกอย่างมาก และมีคนได้กลิ่นเหล้าและบุหรี่ในลมหายใจเธอตลอดเวลา
Whitney Houston
ประวัติ วิทนีย์ ฮูสตัน (Whitney Houston)
วิทนีย์ ฮูสตัน (Whitney Houston) มีชื่อจริงว่า วิทนีย์ เอลิซาเบธ ฮูสตัน (Whitney Elizabeth Houston) เจ้าของเพลงดังอย่าง I Will Always Love You, Saving All My Love For You และ Greatest Love Of All เกิดเมื่อวันที่ 9 สิงหาคม พ.ศ. 2506 (ค.ศ.1963) ที่รัฐนิวเจอร์ซีย์ สหรัฐอเมริกา เป็นลูกสาวของซิสซี ฮูสตัน (Cissy Houston) นักร้องกอสเปลเสียงดีชื่อดัง
วิทนีย์ ฮูสตัน เริ่มเข้าวงการจากการเป็นฐานะนักร้องประสานเสียงในโบสถ์ เมื่ออายุ 12 ปี หลังจากนั้นยังได้ร่วมร้องเพลงกับแม่ของเธอใน New York จนทำให้ Clive David เจ้าของค่าย Arista Records สนใจได้เซ็นสัญญาใน พ.ศ. 2526 (ค.ศ.1983)
ตลอดเวลา25 ปีบนถนนสายดนตรี วิทนีย์ ฮูสตัน ถือว่าได้เป็นนักร้องระดับตำนานที่ใคร ๆ ก็ต่างรู้จักและชื่อชอบในน้ำเสียที่ทรงพลัง โดยมีผลงานเพลงออกมาให้ฟังมากมาย เช่น
• ปี 2528 (ค.ศ.1985) วิทนีย์ ฮูสตัน มีผลงานเพลงในฐานะนักร้องอาชีพในอัลบั้มแรก Whitney Houston โดยมีเพลงดังมากมายอย่าง Saving All My Love For You และ Greatest Love of All และยังได้รับรางวัลต่าง ๆ มากมาย
• ปี 2530 (ค.ศ.1987) วิทนีย์ ฮูสตัน ออกอัลบั้มที่ 2 ในชื่อ Whitney และกลายเป็นอัลบั้มแรกของนักร้องหญิงที่เข้าชาร์ตอันดับที่ 1 ของ Billboard 200 Albums ที่มีเพลงเด่นอย่าง I Wanna Dance With Somebody (Who Loves Me) และ So Emotional’ พร้อมๆ กับอัลบั้มที่ 3 I’m Your Baby Tonight ก็ออกมาในปี 2533 (ค.ศ.1990)
• ปี 2533 (ค.ศ.1990) ออกอัลบั้มที่ 3 I’m Your Baby Tonight
• วิทนีย์ ฮูสตัน รับบทบาทนักแสดงในเรื่อง The Bodyguard ในปี 2535 (ค.ศ.1992) จนเกิดกระแส The Bodyguard ฟีเวอร์ จนกลายเป็นอัลบั้มเพลงประกอบภาพยนตร์ที่ขายดีที่สุดในโลก และได้รับรางวัล Grammy Awards (แกรมมี่ อวอร์ด) สาขา Album of The Year หรืออัลบั้มแห่งปี และเพลงนำ I Will Always Love You ยังกลายเป็นซิงเกิ้ลที่ขายดีที่สุดในโลกอีกเช่นกัน อีกทั้งยังได้พบรักกับ Bobby Brown
• ในปี 2541 (ค.ศ.1998) วิทนีย์ ฮูสตัน ออกอัลบั้มที่ 4 ที่ชื่อว่า My Love is Your Love ซึ่งต่อมาได้สร้างปรากฏการณ์ให้วงการเพลงจากการต่อสัญญากับค่าย Arista ด้วยมูลค่า 100 ล้านดอลล่าร์สหรัฐ ซึ่งสูงสุดเป็นประวัติการณ์ และออกอัลบั้มที่ 5 Just Whitney
• ในปี 2552 (ค.ศ.2009) วิทนีย์ ฮูสตัน กลับมาอีกครั้งกับอัลบั้มใหม่ล่าสุดชุดที่ 6 I Look To You ที่ใช้เวลาทำนานกว่า 3 ปี ซึ่งมีเพลงดังติดหูอย่าง I Look To You ซึ่งสามารถขึ้นอันดับ 1 ในบิลบอร์ดชาร์ตในสัปดาห์แรก และ Million Dollar Bill นำมาฝากแฟนเพลง
เพลง One Moment In Time(Grammy Awards Live) ของ Whitney Houston
เพลง I Will Always Love You ของ Whitney Houston
เพลง I Have Nothing ของ Whitney Houston
เพลง I Look To You ของ Whitney Houston
เพลง When You Believe ของ Whitney Houston
Whitney Houston
Whitney Houston