จากไปอย่างสงบสำหรับควีนออฟร็อกแอนด์โรลระดับตำนาน ทีนา เทอร์เนอร์ วัย 83 ปี ที่ล่าสุดนั้นมีการรายงานข่าวจากหลายสำนักว่า ทีนา เทอร์เนอร์ (Tina Turner) นักร้องซูเปอร์สตาร์ชาวอเมริกันผู้มีชื่อเสียง หนึ่งในศิลปินไอคอนระดับตำนานที่โลดแล่นอยู่ในวงการเพลงมานานกว่า 6 ทศวรรษ และเป็นเจ้าของฉายา ราชินีร็อกแอนด์โรล (The Queen of Rock & Roll) ได้เสียชีวิตลงอย่างสงบแล้วในวัย 83 ปี ด้วยอาการเจ็บป่วยเรื้อรัง โดยเธอเสียชีวิตในวันที่ 24 พฤษภาคม 2566 หรือตรงกับช่วงเช้าวันนี้ตามเวลาประเทศไทย (25 พฤษภาคม 2566) ที่บ้านพักในคุชนากท์ ใกล้ซูริก ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ สร้างความเศร้าใจแก่วงการเพลงและวงการบันเทิงระดับโลกเลยทีเดียว
การสูญเสียครั้งนี้นับเป็นการสูญเสียบุคคลในระดับตำนานของโลกเลยทีเดียว เพื่อไปร่วมรำลึกถึงบุคคลระดับตำนานจนถูกยกย่องให้ ทีนา เทอร์เนอร์ เป็นราชินีร็อกแอนด์โรล กระปุกดอทคอมจะขอพาทุกคนไปย้อนทำความรู้จักเธอและผลงานที่เธอเคยฝากไว้ในขณะที่ยังมีชีวิตอยู่กันค่ะ
ประวัติ ทีนา เทอร์เนอร์
ทีนา เทอร์เนอร์ ((Tina Turner) หรือชื่อจริงคือ แอนนา เม บุลล็อก (Anna Mae Bullock) เกิดเมื่อวันที่ 26 พฤศจิกายน พ.ศ. 2482 (ค.ศ. 1939) ที่เมืองนัตบุช รัฐเทนเนสซี สหรัฐอเมริกา เธอเป็นทั้งนักร้อง นักแต่งเพลง นักเต้น และนักแสดง เจ้าของเรียวขายาวงามได้สัดส่วน โดยมีชื่อเสียงระดับโลกในยุคหนึ่งจนกลายเป็นตำนานด้วยความสามารถรอบด้าน
ในวัยเด็ก ทีนา หรือ แอนนา มีชีวิตที่ค่อนข้างโดดเดี่ยว เพราะพ่อกับแม่ของเธอแยกทางกันตั้งแต่เธออายุเพียง 10 ขวบ จนเธออายุได้ 16 ปี ก็ย้ายไปอยู่กับแม่ที่เมืองเซนต์หลุยส์ รัฐมิสซูรี จนได้พบกับ ไอค์ เทอร์เนอร์ (Ike Turner) หัวหน้าวง The Kings of Rhythm ซึ่งเห็นแววการเป็นนักร้องของเธอจึงชักชวนให้มาเป็นนักร้อง และเปลี่ยนชื่อใหม่เป็น ทีนา เทอร์เนอร์ ไอค์สนับสนุนปลุกปั้นจนชื่อเสียงของทีนาเริ่มเป็นที่รู้จัก และโด่งดังในยุค 60 จนเปลี่ยนชื่อวงจากเดิม The Kings of Rhythm มาเป็น The Ike & Tina Turner Revue ระหว่างนี้ ทีนา มีสัมพันธ์ลึกซึ้งกับนักดนตรีแซกโซโฟนของวง จนให้กำเนิดลูกชาย 1 คน ก่อนจะเลิกรากันไป และหันมาใช้ชีวิตคู่แต่งงานกับ ไอค์ จนมีลูกชายด้วยกันอีก 1 คน อย่างไรก็ตาม ทั้งทีนาและไอค์ก็หย่าร้างกันในปี พ.ศ. 2521 (ค.ศ. 1978)
กระทั่งในปี พ.ศ. 2529 (ค.ศ. 1986) ทีนา ได้พบกับ เออร์วิน บาค (Erwin Bach) สามีรุ่นน้องสัญชาติเยอรมัน ซึ่งอายุห่างจากเธอ 16 ปี และได้เข้าพิธีวิวาห์เมื่อปี 2013 หลังเดตกันมา 27 ปี และเขาเคยสละไต 1 ข้างให้กับเธอเมื่อปี 2017
วันที่ 24 พฤษภาคม 2566 (ตามเวลาท้องถิ่นของสวิตเซอร์แลนด์) หรือตรงกับช่วงเช้าวันนี้ตามเวลาประเทศไทย (25 พฤษภาคม 2566) ทีนา เทอร์เนอร์ ได้เสียชีวิตอย่างสงบที่บ้านพักในสวิตเซอร์แลนด์ ด้วยวัย 83 ปี หลังต่อสู้กับโรคร้ายในช่วงหลายปีให้หลัง ทั้งมะเร็งลำไส้, โรคหลอดเลือดสมอง (สโตรก) และภาวะไตวายอันเกิดจากความดันโลหิตสูง
ทีนา เทอร์เนอร์ ราชินีร็อกแอนด์โรล
ทีนา เทอร์เนอร์ ได้รับการขนานนามว่าเป็น ราชินีร็อกแอนด์โรล (The Queen of Rock & Roll) จากผลงานเพลงและการแสดงสดบนเวทีที่ตื่นเต้นทรงพลัง ทั้งน้ำเสียงที่เป็นเอกลักษณ์และลีลาท่าเต้นที่เร้าใจ อีกทั้งเธอยังเป็นที่รู้จักอย่างแพร่หลายนานหลายทศวรรษว่าเป็นนักร้องหญิงที่มีเรียวขาสวยมากที่สุดคนหนึ่งในวงการเพลง นอกจากเพลงร็อกแล้ว เธอยังมีผลงานเพลงในแนวโซล อาร์แอนด์บี แดนซ์ คันทรี และป๊อป อีกด้วย
ชื่อของเธอติดอันดับในหลายต่อหลายชาร์ตระดับโลกในการจัดอันดับของสถาบันและนิตยสารชั้นนำต่าง ๆ มากมาย อาทิ นิตยสารโรลลิงสโตน ยกย่องเธอให้เป็นหนึ่งในนักร้องและศิลปินที่ยิ่งใหญ่ที่สุดตลอดกาล (The Immortals - The Greatest Artists of All Time and The Greatest singers of All Time) และในปี พ.ศ. 2564 (ค.ศ. 2021)
ทีนา กลายเป็นศิลปินหญิงคนที่ 2 ในประวัติศาสตร์ที่ถูกบันทึกชื่อ 2 ครั้งเข้าสู่หอเกียรติยศร็อกแอนด์โรลฮอลล์ออฟเฟม (the Rock and Roll Hall of Fame) โดยครั้งแรกเธอกับอดีตสามี ไอค์ เทอร์เนอร์ ถูกบรรจุชื่อในฐานะคู่นักดนตรี ในปี พ.ศ. 2534 (ค.ศ. 1991) และครั้งที่ 2 ทีนาถูกบรรจุชื่อในฐานะศิลปินเดี่ยว ในปี พ.ศ. 2564 (ค.ศ. 2021)
ผลงานสร้างชื่อ ทีนา เทอร์เนอร์
ทีนา เป็นทั้งนักร้อง, นักแต่งเพลง, นักเต้น และนักแสดง ที่เป็นเจ้าของเพลงดังมากมาย เช่น What’s Love Got to Do with It, Better Be Good to Me, Typical Male, The Best และ Private Dancer เธอเป็นนักร้องที่มีเพลงติดใน Top 10 Billboard Hot 100 อยู่ 7 เพลง มีเพลงติดใน Top 10 Billboard Hot R&B singles อยู่ 16 เพลง และเธอยังเป็นศิลปินคนแรกที่มีเพลงติดใน Top 40 Hits ในสหราชอาณาจักรตลอดระยะเวลา 7 ทศวรรษ โดยมีทั้งหมด 35 เพลง
นอกจากงานเพลงแล้ว ทีนา เทอร์เนอร์ ยังมีผลงานการแสดงรวมทั้งสิ้น 4 เรื่อง โดยเริ่มจากการรับบทเป็น Acid Queen ในภาพยนตร์เรื่อง Tommy ออกฉายในปี ค.ศ. 1975 ต่อมาในปี ค.ศ. 1978 เธอได้ร่วมแสดงเป็นดารารับเชิญพิเศษในฉากปิดของภาพยนตร์เรื่อง Sgt. Pepper's Lonely Hearts Club Band
ต่อมาในปี ค.ศ. 1985 ทีนา ได้รับความนิยมสูงสุดและเป็นที่รู้จักในฐานะนักแสดง เมื่อเธอได้ร่วมแสดงนำคู่กับ เมล กิบสัน รับบทเป็น Antie Entity เป็นภาพยนตร์แนวแอ็คชั่นสัญชาติออสเตรเลีย เรื่อง Mad Max: Beyond Thunderdome (แมดแม็กซ์ 3) และบทรับเชิญใน Last Action Hero ปี 1993 นำแสดงโดย อาร์โนลด์ ชวาร์เซเนกเกอร์ อีกด้วย
ทีนา เทอร์เนอร์ กับคอนเสิร์ต
ถึงแม้ ทีนา เทอร์เนอร์ จะเป็นที่รู้จักในฐานะศิลปินร็อกหญิงที่โด่งดังและเป็นหนึ่งในศิลปินนักร้องที่มียอดขายมากที่สุดคนหนึ่ง ด้วยยอดขายทั่วโลกรวมแล้วเกือบ 200 ล้านชุดก็ตาม แต่สำหรับตัวเธอเองกลับมองว่า เธอเป็นผู้มอบความบันเทิง (Performer) มากกว่า เพราะสิ่งที่สร้างชื่อเสียงและสร้างรายได้ให้กับเธอมากที่สุดคือ การแสดงสด หรือการแสดงคอนเสิร์ต ซึ่งเป็นที่ร่ำลือกันว่าคอนเสิร์ตของทีนานั้นขึ้นชื่อในเรื่องของพลังความร้อนแรง ลีลาที่เร่าร้อน และเป็นการแสดงสดที่มีคุณภาพ
ในปี พ.ศ. 2529 (ค.ศ. 1986) การแสดงคอนเสิร์ต Break Every Rule World Tour ที่ริโอ เดิ จาเนโร ของทีนา ถูกบันทึกลงในกินเนสส์บุ๊กว่ามีผู้ซื้อบัตรเข้าชมมากที่สุดสำหรับศิลปินเดี่ยว เป็นจำนวนสูงถึง 184,000 คน และในปี พ.ศ. 2543 (ค.ศ. 2000) ทีนาครองแชมป์ทัวร์คอนเสิร์ตทำเงินสูงสุดแห่งปี 2000 ในทวีปอเมริกาเหนือ ทำรายได้ 80.2 ล้านดอลลาร์สหรัฐ จากการทัวร์ Twenty Four Seven Tour ซึ่งเป็นคอนเสิร์ตอำลาเวทีการแสดงสดในสเตเดียมใหญ่ของเธอ และในปีเดียวกันนั้นเองทีนาก็ถูกบันทึกลงในกินเนสส์บุ๊กอีกครั้งว่าเป็นศิลปินเดี่ยวที่มียอดขายตั๋วคอนเสิร์ตเป็นจำนวนมากที่สุดในโลก
ทีนา เทอร์เนอร์ นับว่าเป็นต้นแบบศิลปินที่ใช้ทั้งเสียงเพลงและท่าเต้นอย่างเต็มที่กับทุกการแสดง เพื่ออุทิศตนให้กับโชว์อันทรงพลังเพื่อมอบความสุขให้กับแฟน ๆ จนเป็นแบบอย่างที่ยอดเยี่ยมให้กับศิลปินรุ่นหลัง ทั้ง บียอนเซ่ โนลส์ (Beyonce Knowles) เจเน็ต แจ็คสัน (Janet Jackson), จาแนลล์ โมเน (Janelle Monae) รวมถึง ริฮานน่า (Rihanna) แม้ว่าวันนี้ ทีนา เทอร์เนอร์ ไม่ได้อยู่เพื่อใช้ผลงานของเธอปลอบประโลมโลกแล้ว แต่ผลงานที่กล่าวไปข้างต้นส่วนหนึ่งนั้นได้ประจักษ์แล้วว่านี่คือ ทีนา เทอร์เนอร์ ศิลปินคุณภาพระดับโลกที่กลายเป็นตำนานที่โลกต้องจารึกชื่อของเธอไว้ให้กล่าวถึงสืบไป