G-DRAGON เดินทางมาถึงไทยแล้ว ด้านแฟนคลับแห่ต้อนรับคับคั่ง พร้อมบทสัมภาษณ์ ที่จะมาเผยตัวตนว่าเขาคือ ควอนจียง ไม่ใช่ จี-ดราก้อน
เมื่อช่วงกลางดึกวันพฤหัสบดีที่ 6 กรกฎาคม 2560 เวลาเที่ยงคืนครึ่งโดยประมาณ จี-ดราก้อน (G-DRAGON) ได้เดินทางมาด้วยสายการบินโคเรียนแอร์ไลน์ เที่ยวบินที่ KE659 จากประเทศเกาหลีใต้ มายังประเทศไทย พร้อมขนเพลงฮิต แดนเซอร์ และโปรดักชั่นสุดอลังการมาให้วีไอพีชาวไทยได้ฟินเต็มอิ่มไปกับเวิลด์ทัวร์ ส่งท้าย "เถ้าแก่น้อย พรีเซ็นต์ส จี-ดราก้อน 2017 เวิลด์ ทัวร์ แอ็ค 3, เอ็ม.โอ.ที.ที.อี." (Tao Kae Noi Presents G-DRAGON 2017 WORLD TOUR <ACT III, M.O.T.T.E>) ที่เตรียมจัดเต็มความมันส์ในวันที่ 7-8 กรกฎาคม 2560 ที่อิมแพ็ค อารีน่า เมืองทองธานี โดยบรรยากาศบริเวณหน้าอาคาร VIP ของสนามบินสุวรรณภูมิ ต่างคึกคักและเต็มไปด้วยเหล่าวีไอพีชาวไทยที่มารอต้อนรับซูเปอร์สตาร์สุดฮอตแห่งวงการเคเป๊อป จี-ดราก้อน (G-DRAGON) กันตั้งแต่ช่วงหัวค่ำ ซึ่งคอนเสิร์ตครั้งนี้จะเป็นคอนเสิร์ตเดี่ยวครั้งสุดท้ายของ จี-ดราก้อน ก่อนที่เขาจะต้องไปรับใช้ชาติ เพราะฉะนั้นวีไอพีไทยห้ามพลาดอย่างเด็ดขาด เพราะทางทีมงานเกาหลีคอนเฟิร์มมาว่างานนี้จัดเต็มทั้ง แสง สี เสียง อย่างแน่นอน เพื่อสร้างความประทับใจให้กับเหล่าวีไอพีชาวไทย
นอกจากนี้ จี-ดราก้อน ยังได้ให้สัมภาษณ์ก่อนหน้านี้ เกี่ยวกับการทัวร์คอนเสิร์ตว่า
คนที่เห็นผมในช่วงที่ทำอัลบั้มนี้ ต่างบอกว่าพวกเขารู้สึกเบาใจหลังจากที่อัลบั้มถูกปล่อยออกมาแล้ว แต่ผมกลับรู้สึกว่านี่เป็นแค่จุดเริ่มต้นของผลงานที่ผมทุ่มเททำมา มันเป็นจุดเริ่มต้นของเวิลด์ทัวร์ ซึ่งเป็นผลงานต่อจากอัลบั้ม ทุกอย่างมีความหมายที่ยิ่งใหญ่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเป้าหมายของอัลบั้มเดี่ยวชุดนี้ คือการแสดงให้เห็นถึงตัวตนของควอนจียง ไม่ใช่ จี-ดราก้อน
คอนเซ็ปต์ของเวิลด์ทัวร์ครั้งนี้ คือ แอ็ค 3 เอ็ม.โอ.ที.ที.อี. (โมเมนต์ ออฟ ทรูธ ดิ เอนด์) คุณมีอะไรที่จะแสดงให้แฟน ๆ เห็นในทัวร์คอนเสิร์ตครั้งนี้บ้าง
ผมใช้วิธีที่แตกต่างในการทำงานในอัลบั้มนี้ เมื่อเทียบกับอัลบั้มก่อน ๆ ผมค้นพบว่า มีอีกหลายเรื่องที่ผมไม่รู้เกี่ยวกับตัวเอง หลายเรื่องที่ผมไม่เคยมีโอกาสได้ลองค้นหาเกี่ยวกับตัวผมเอง หรือความทรงจำที่ผมทำหล่นหายไปในช่วงที่ผ่านมา นั่นเป็นเหตุผลทำให้ผมลองคิดทบทวนเกี่ยวกับอัลบั้มที่เคยทำและชีวิตของตัวเองในช่วงหลายปีที่ผ่านมา เริ่มตั้งแต่ปลายปีที่แล้ว ผมคอยเขียนบันทึกความทรงจำที่ผ่านเข้ามาในหัว แล้วก็นำมาใช้ประกอบเป็นเนื้อเพลงในอัลบั้มและสร้างคอนเซ็ปต์โดยรวมของการทัวร์คอนเสิร์ตครั้งนี้ ผมกำลังจะอายุครบ 30 ปี ในปีนี้ และถือเป็นช่วงสำคัญที่สุดในชีวิต ดังนั้น แทนที่จะให้ความสนใจไปกับการทำโชว์ให้ทันสมัย มีซาวด์ มีภาพลักษณ์แบบใหม่ ๆ ผมเลือกที่จะทำอัลบั้มนี้ด้วยความคิดว่า นี่คืออัลบั้มสุดท้ายของผม ทำไมแฟน ๆ จึงไม่ควรพลาดชมคอนเสิร์ตครั้งนี้ของคุณ มันอาจจะเป็นคอนเสิร์ตครั้งแรกและครั้งสุดท้ายที่ผมแสดงตัวตนในฐานะของ ควอนจียง ไม่ใช่ จี-ดราก้อน ครับ