คอนเสิร์ต Sqweez Animal Let's Glow Party สุดประทับใจ

สุดประทับใจภาพความสำเร็จคอนเสิร์ตใหญ่ สควีซ แอนนิมอล คนทะลัก โชว์สุดเจ๋ง !! ใน Absolut Vodka Present Sqweez Animal Let\'s Glow Party (สไปซี่ ดิสก์)

          ผ่านพ้นไปแล้วกับคอนเสิร์ตเต็มรูปแบบครั้งที่สอง ของสองหนุ่ม วิน ศิริวงศ์ และ สิงห์ มุสิกพงศ์ แห่งวงสควีซ แอนนิมอล (Sqweez Animal) ศิลปินสังกัด สไปซี่ ดิสก์ (Spicy Disc) คอนเสิร์ตครั้งนี้เต็มไปด้วยภาพความประทับใจ จากแฟนเพลงที่มาให้การต้อนรับสองหนุ่มกว่า 4,000 คน จนล้นทะลักพื้นที่มูนสตาร์สตู 8 บรรยากาศคอนเสิร์ตครั้งนี้เหมือนได้หลุดไปอยู่ในปาร์ตี้เรืองแสงจริง ๆ เพราะสองหนุ่มได้เนรมิตรสูตมูนสตาร์ ให้กลายเป็นปาร์ตี้สุดมันส์ ที่รวมเอาบทเพลงทั้งสองอัลบั้ม มาโชว์ให้แฟนเพลงได้ฟังอย่างครบถ้วน และก็ยังมีพี่น้องในวงการเพลงมาร่วมแสดงความดีใจกันอย่างอบอุ่น ไม่ว่าจะเป็น พลอย เฌอมาลย์ บุญยศักดิ์, ตุ้ย ธีรพัฒน์ สัจจกุล, เป้ อารักษ์ อมรศุภศิริ, โบว์ลิ่ง มานิดา เรืองศรี, พิตต้า ณ พัทลุง และศิลปินสังกัดสไปซี่ ดิสก์ อย่าง เอ๊ะ - แมน วงละอองฟอง, ดุล วงฟรายเดย์, วงมายด์, ตุล วงอพาร์ตเมนต์คุณป้า และน้องใหม่อย่าง โอ๊ค วง Four 42 แต่ที่ขาดไม่ได้ก็เหมือนจะเป็น บอสใหญ่แห่งค่ายเพลงสไปซี่ ดิสก์ อย่าง คุณพิชัย จิราธิวัฒน์ ที่มาร่วมแสดงความยินดีกับความสำเร็จของสองหนุ่ม สควีซ แอนนิมอล ด้วย


          คอนเสิร์ตอารมณ์ปาร์ตี้ครั้งนี้ เปิดตัวด้วยเพลงฟังสบาย ๆ ของวงดนตรีน้องใหม่ Rooftop ที่มีนักแสดงหนุ่มสุดฮอต อย่าง พีช พชร จิราธิวัฒน์ มาเล่นเปิดตัวคอนเสิร์ตครั้งนี้ หลังจากนั้นอีกไม่นานก็ถึงเวลาของเจ้าของคอนเสิร์ตตัวจริง เพลงแรก สิงห์ ได้เซอร์ไพรส์แฟนเพลง ด้วยการโซโล่กีตาร์ในเพลง ไม่มองกลับหลัง แล้วเดินออกมาจากข้างเวที ทำเอาแฟนเพลงปรบมือดังสนั่นมูนสตาร์ หลังจากนั้นก็ถึงคิวของนักร้องอย่าง วิน ที่เดินออกมาพร้อมคอสตูมที่เตรียมจะเรืองแสงเต็มที่ และร้องเพลง Better Day เป็นเพลงที่สอง ต่อจากนั้นวินก็ได้นำเพลงจังหวะสบาย ๆ ในอัลบั้มแรก อย่าง อาจยังไม่สาย มากระตุ้นอารมณ์แฟนเพลง และตามมาด้วยเพลง อีกสักครั้ง, ครึ่งสายตา และถึงเวลาที่สิงห์ขอร้องเดี่ยวกับเพลง ย้ำ ซึ่งเพลงนี้ เขายังได้สาวสวยเจ้าของเสียงใส ๆ ในเพลงนี้ ที่ร้องเอาไว้นานกว่า 7 ปี ออน ละอองฟอง มาร่วมโชว์เสียงหวาน ๆ ในเพลงนี้ด้วย ยิ่งส่งให้เพลงนี้สดใสน่ารักตามแบบฉบับอย่างครบถ้วน ต่อจากนั้นก็กลับมาเป็นหน้าที่ของวินเช่นเดิมกับเพลงที่เขาประกาศออกไมค์ว่า เพลงนี้ผมแต่งให้ตัวเองตอนโสด !!! คือเพลง รักลอยลม และ นางในฝัน ซึ่งได้เสียงเพราะ ๆ ของเครื่องสายมาประกอบในเพลง ต่อจากนั้นก็เป็นคิวของเพลง ไม่เคยจะห่างกัน และ ฉันไม่เหงา


          ต่อจากนั้นก็มาถึงสามเพลงพิเศษที่วินได้ปล่อยไมค์ให้สิงห์ได้โชว์เสียงนุ่ม ๆ อีกครั้ง ในเพลงที่ดูจะบ่งบอกตัวตนของสิงห์ อย่างเพลง ทำไงดี, อาย และ ถุย บรรยากาศในตอนนั้นเต็มไปด้วยรอยยิ้มของสาว ๆ ที่เคลิ้มไปกับเสียงนุ่ม ๆ ของหนุ่มสิงห์ พอสิ้นเสียงของสิงห์ วินก็ค่อย ๆ เดินออกมาจากหลังเวที และพูดคุยกับแฟนเพลงอย่างเป็นกันเอง ต่อจากนั้นพวกเขาก็ได้โชว์เพลง ก่อนหน้านี้ และก็ถึงเวลาของเพลงฮิตที่สุด เพลงหนึ่งในอัลบั้มที่สองของพวกเขา อย่างเพลง ไม่มีที่มา เพลงนี้ก็เป็นอีกเพลงหนึ่งที่กล่อมแฟนเพลงให้ร้องตามได้อย่างไม่น่าเชื่อ ต่อจากนั้นก็เป็นคิวของแขกรับเชิญคนต่อไป นั้นก็คือสาว ๆ นักดนตรีที่ใช้ไอแพดมารังสรรค์เสียงดนตรีได้เป็นเอกลักษณ์ อย่างวง Apple Girls Band ครั้งนี้พวกเธอได้นำเพลง 2012 มาโชว์ร่วมกับหนุ่มสิงห์ของเราด้วย เพลงนี้ก็เป็นอีกเพลงหนึ่งที่ขโมยรอยยิ้มของสาว ๆ ได้หลายต่อหลายคน ต่อด้วยเพลง แบบนี้ ขึ้นมาร้องเพื่อบิวท์อารมณ์ของแฟนเพลงให้อินไปกันเนื้อร้องที่แสนจะโดนใจใครหลาย ๆ คน หลังจากนั้นพวกเขาก็ได้เปลี่ยนบรรยากาศ โดยการนำเพลงช้าซึ้ง ๆ เพลงฮิตประจำตัว วิน อย่างเพลง ไม่มีความหมาย มากระตุ้นต่อมน้ำตาบรรดาแฟนเพลง อย่างที่ไม่เคยทำที่ไหนมาก่อน บรรยากาศตอนนั้นเหมือนได้หลุดเข้าไปในปาร์ตี้เสียงเพลงของสองหนุ่ม สควีซ แอนนิมอล จริง ๆ


          ถึงเวลาของพี่ชายคนพิเศษ ที่พวกเขาเก็บเป็นความลับมาโดยตลอด และวินยังได้เผยอีกว่า เขาคนนี้เป็นคนที่วินเคยดูแลตอนไปทัวร์คอนเสิร์ตที่อังกฤษด้วย และแขกคนสำคัญนั้นก็คือ ปู แบล็คเฮด ที่ครั้งนี้ได้มาโชว์พลังเสียงกับสองหนุ่มถึงสองเพลง เพลงแรกเป็นเพลงร็อคหนัก ๆ อย่าง ยาเวลา ซึ่งเพลงนี้ปูกับวินได้ประชันน้ำเสียงกันสุดพลัง ทำเอาแฟนเพลงกระโดดตามไปกับจังหวะของดนตรีที่เต็ม และแน่นไปด้วยอารมณ์ความมันส์ หลังจากนั้นไม่นานก็มีเสียงกลองตีขึ้นมาเป็นจังหวะ ๆ พร้อมภาพแฟนเพลงที่พร้อมใจกันยกมือทั้งสองข้างขึ้นปรบมืออย่างเป็นจังหวะ คือไม่บอกก็รู้ว่าเป็นเพลงยอดฮิตของวงแบล็คเฮด นั้นก็คือเพลง ยิ่งโตยิ่งสวย หลังจากนั้นวินและสิงห์ก็ได้กระโดดมาจับไมค์ต่อด้วยเพลง Materialistic, Funksy, รักเรา และ รักไม่หลอก ตามลำดับ


          พอจบจากสี่เพลงนี้แล้ว วินและสิงห์ก็ได้พักเหนื่อยด้วยการพูดคุยถึงบรรยากาศคอนเสิร์ตเต็มรูปแบบครั้งที่สอง กับแฟนเพลงอีกครั้ง พร้อมนำเข้าเพลงที่ทุกคนพูดถึงมากที่สุดของสควีซ แอนนิมอล ไม่ว่าจะเป็นเพลงหรือมิวสิคฯ ที่ออกมาก็สามารถเรียกน้ำตาได้ง่าย ๆ นั้นคือเพลง จนวันสุดท้าย ครั้งนี้วินได้เปิดโชว์เพลงนี้ด้วยเสียงกีตาร์เบา ๆ บวกกับเสียงของเครื่องสาย ที่ค่อย ๆ เร่งจังหวะหนักขึ้น ๆ พร้อมน้ำเสียงอันทรงพลังของสาว แป๋ง วง เยลโล่ ฟาง (yellow fang) ทั้งหมดนี้รวมกันมันช่างเป็นบทเพลงที่บีบหัวใจแฟนเพลงซะจริง ๆ


          Absolut Vodka Present Sqweez Animal Let\'s Glow Party ก็ได้เดินทางมาถึงช่วงสุดท้ายแล้ว หนึ่งสิ่งที่พวกเขา สควีซ แอนนิมอล ต้องการมอบให้กับแฟนเพลง ก็คงเป็นความสุขอย่างเต็มเปี่ยมจากคอนเสิร์ตครั้งนี้ และเพลงสุดท้ายที่พวกเขาจะมอบให้กับแฟนเพลงก็คือเพลง คำบางคำ หลังจากจบเพลงนี้ พวกเขาก็ได้กล่าวคำลากับแฟนเพลง แล้วก็หายลงไปหลังเวที พร้อมเสียงโห่ร้องของแฟนเพลงว่า เอาอีก ๆ แต่ก็ไม่กี่อึดใจ พวกเขาก็ได้กลับขึ้นมาอีกครั้ง พร้อมเสื้อผ้าชุดใหม่ ที่เพ้นท์สีสะท้องแสง สดใสไปทั้งตัว ทำเอาแฟนเพลงปรบแสดงความดีใจ และพวกเขาก็ได้เริ่มร้องเพลง Let\'s Cry และจบด้วยเพลงพิเศษ อย่าง Better Day Remized Version by Tahiti 80 Insired by Absolut 7 ที่ทำขึ้นเพื่อคอนเสิร์ตครั้งนี้โดยเฉพาะ ภาพบรรยากาศในตอนนั้นเป็นภาพที่ประทับใจมาก ทั้งเสียงเพลง พร้อมแสงแบล็คไลท์ ที่สาดกระทบกับกระดาษชิ้นเล็ก ๆ ที่ค่อย ๆ โปรยมาจากด้านบนของสตูดิโอมูนสตาร์ ทำให้วินอดใจไม่ไหว กระโดดลงมาร้อเพลงกลับคนดูกลางฮอลล์!! ครั้งนี้ก็คงเป็นการบอกลาครั้งสุดท้ายจริง ๆ สำหรับคอนเสิร์ตเต็มรูปแบบครั้งที่สองของ สควีซ แอนนิมอล

          ภาพความทรงจำ ที่แฟนเพลงได้รับจากคอนเสิร์ตครั้งนี้ เชื่อได้ว่าจะยังคงอยู่ในความทรงจำส่วนลึก ๆ ของแฟนเพลง สควีซ แอนนิมอล ไปอีกนาน ไม่ว่าจะเป็น แสง สี และเสียงที่กระตุ้นต่อมความมันส์ อารมณ์ปาร์ตี้ และยังมีเพลงโดน ๆ ทั้งสองอัลบั้ม มอบให้เป็นของขวัญสำหรับแฟนเพลง ที่ให้การสนับสนุนพวกเขามาโดยตลอด และคอนเสิร์ตครั้งนี้เปรียบเสมือนความสำเร็จของพวกเขาบนถนนสายดนตรี อีกด้วย

ฟังเพลง ข่าวเพลง ดู MV เพลงฮิต คลิกเลยค่ะ

ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก