6 คนสุดท้าย The Voice Kids ซีซั่น 2 ทั้งเก่ง ทั้งเจ๋ง !

         สาวน้อยวัย 14 ปี ที่เอาเพลงลูกทุ่งเพราะ ๆ อย่างดาวเรืองดาวโรย มาโชว์เสียงทรงพลังในรอบ Blind Audition ซึ่งโค้ชปานและโค้ชสุเมธ แอนด์ เดอะ ปั๋ง ก็ชื่นชอบในเสียงของน้องโดนัท จนกดไฟเลือกพร้อม ๆ กัน แต่สุดท้ายน้องโดนัทก็ขอเลือกโค้ชสุเมธ แอนด์ เดอะ ปั๋ง เป็นโค้ชของเธอในที่สุด

         ส่วนในรอบต่อมา น้องโดนัทก็ต้องประชันเสียงในรอบ Battle Round กับ  มาตัง VS โดนัท VS แมงปอ ในเพลงกล่อม ถึงแม้ว่าทุกคนจะร้องได้เพลง ซึ้ง ตรึงใจ แต่คนที่ผิดพลาดน้อยที่สุดและชนะใจโค้ชมากที่สุดก็คือน้องโดนัทนั่นเอง


         บุ้งกี๋ พรสวรรค์ ญาณวโร

 
         สาวน้อยตาโตแก้มป่องวัย 13 ปีคนนี้ นำเอาเพลงใส ๆ ซึ้ง ๆ อย่างเพลงดาว มาขับร้องได้อย่างไพเราะ สะกดใจโค้ชทุกคน จนต้องกดหันไฟมาเลือกแทบจะพร้อม ๆ กันเลยล่ะ แต่น้องบุ๋งกี๋ขอเลือกเป็นลูกทีมโค้ชสุเมธ แอนด์ เดอะ ปั๋ง
 
         สำหรับในรอบ Battle Round น้องบุ๋งกี๋ ประชันเสียงใส ๆ ระหว่าง ออร์แกน VS เซน VS บุ้งกี๋ ในบทเพลงหวาน ๆ เพราะ ๆ อย่าง Pass The Love Forward ซึ่งน้องบุ๋งกี๋ก็ทำให้ดีแบบไม่มีที่ติเข้ารอบต่อไปอย่างฉลุยเลยล่ะ


ทีมโค้ชปาน



         ออฟ อธิวัฒน์  ช้างน้อย


         นำเพลงลูกทุ่งในตำนานมาขับร้องได้เพราะสุด ๆ สำหรับน้องออฟ วัย 13 ปี ที่หยิบเพลง  สัญญาเมื่อสายันห์ มาโชว์ในรอบ Blind Audition ซึ่งน้ำเสียงและลูกคอของน้องออฟก็โดนใจโค้ชปานสุด ๆ กดไฟเลือกเป็นคนแรกเลยล่ะ

         ส่วนในรอบ Battle Round  น้องออฟก็แข่งขันคู่กับสองสาว ออฟ VS ไตเติล VS ทรายแก้ว เรียกได้ว่าน้ำเสียงและลีลาของน้องออฟกินขาดแบบสุด ๆ ทำให้โค้ชปานเลือกให้เข้ารอบต่อไป


         นาเดียร์ ยลรดี คุ้มกนกกานต์


          สาวน้อยแก้มน่าหยิกอย่างน้องนาเดียร์ ที่ขอมาโชว์เพลงสากลเท่ ๆ อย่าง One Night Only งานนี้น้องนาเดียร์ทั้งร้องทั้งเต้นแบบมันส์สุด ๆ ทำให้โค้ชทั้ง 3 ทีม กดหันมาแย่งกันแบบสุดฤทธิ์ แต่สุดท้ายน้องนาเดียร์ก็เลือกโค้ชปานไปในที่สุด

         ต่อมาในรอบ Battle Round ก็ได้แข่งขันกับสองสาวเสียงเทพ นาเดียร์ VS ลิลลี่ VS จีน ในบทเพลงน่ารัก ๆ อย่าง You\'ve Got A Friend  ขอบอกเลยว่าน้องนาเดียร์สำเนียงเป๊ะ เสียงร้องเพราะพริ้งถูกใจโค้ชปานสุด ๆ ทำให้โค้ชปานเลือกน้องนาเดียร์เข้ารอบต่อไป


ทีมโค้ชซานิ



         มะปราง ปิยธิดา เล็กกลาง


         ถึงจะมัดแกละดูคิขุแต่ขอบอกเลยว่าลีลาการร้องแซบเว่อร์จริง ๆ สำหรับน้องมะปรางวัย 13 ซึ่งนำเพลงของโค้ชซานิ อย่างเพลง คุคะคิ มาร้องได้อย่างโดนใจโค้ชทุก ๆ คนเลยล่ะ แต่สุดท้ายน้องมะปรางก็เลือกเป็นลูกทีมของโค้ชซานิ

         เมื่อถึงรอบ Battle Round น้องมะปรางก็โชว์พลังเสียงระหว่าง มะปราง VS โก๊ะตุลย์ VS ครีม ในเพลงโจ๊ะ ๆ อย่างหนุ่มบาวสาวปาน ซึ่งทุกคนทำได้ดีไม่แพ้กันเลยล่ะ แต่คนที่เสียงมีเสน่ห์และร้องผิดพลาดน้อยที่สุดคือน้องมะปราง โค้ชซานิจึงเลือกเธอเข้าไปในรอบ Live Performance  ในที่สุด


         ซ่า วาเนสซ่า เฮ็มมิงเซ็น


         สาวลูกครึ่งเสียงใส๊..ใส อย่างน้องซ่า วาเนสซ่า ได้นำเพลงเพราะ ๆ อย่าง Desperado ซึ่งน้องซ่าร้องเพียงแค่ประโยคแรกเสียงของเธอก็โดนใจโค้ชทุก ๆ คน แต่ที่ในที่สุดน้องซ่าก็เลือกอยู่ทีมของโค้ชซานิ

         ส่วนในรอบ Battle Round  น้องซ่าก็ได้ประชันเสียงกับ มีน VS วาเนสซ่า VS นาขวัญ ในเพลงเท่ ๆ อย่าง We Found Love ถึงแม้ว่าแต่ละคนจะร้องได้ดี แต่โค้ชซานิขอเลือกน้องซ่าให้เข้ารอบ  Live Performance  เพื่อชิงชัยต่อไป

        
         รักใครชอบใครก็อย่าลืมติดตามและร่วมให้กำลังใจน้อง ๆ คนเก่งกันด้วยน้า